พาเล่นที่ Imaginia ความสนุกแห่งใหม่ใจกลางเมือง
Imaginia เป็นที่เล่นแห่งใหม่สำหรับเด็ก ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้ตาลได้มีโอกาสพาแพมแวะไปเล่นมาค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่า ประทับใจมาก เลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง
Imaginia ตั้งอยู่บนชั้น 3 โซน EmPlayground ที่ศูนย์การค้า The Emporium สุขุมวิท ที่นี่เค้ามี concept ในการเล่น คือ เป็นสวนสนุกปลูกจินตนาการ 3 ภาษา (ไทย อังกฤษ และ ญี่ปุ่น) เน้นความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมต่างๆจะผสมผสานกับระบบ digital interactive เหมาะสำหรับเด็กๆ
เชิญรับชมคลิปพาเที่ยว Imaginia กันก่อนได้เลย
วันที่ตาลไป เป็นวันธรรมดา คนไม่เยอะ ไปตั้งแต่เช้า เวลาห้างเปิดเลยค่ะ บรรยากาศโดยรวมสบายๆ อยากทำกิจกรรมอะไร หรือ เล่นอะไร ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ สนุกมากๆเลยค่ะ
เรามาเริ่มดูอัตราค่าเข้ากันก่อนนะคะ
- สำหรับเด็ก แรกเกิด ถึง เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 70 ซม เข้าฟรี
- เด็กที่สูงระหว่าง 71 – 100 ซม เสียค่าเข้า 200 บาท
- เด็กที่สูงตั้งแต่ 101 ซม จนถึง เด็กที่อายุไม่เกิน 15 ปี เสียค่าเข้า 500 บาท
- สำหรับผู้ปกครอง ผู้ติดตาม เสียคนละ 200 บาท
** สามารถสนุกได้ภายใน 3 ชั่วโมง หากเกินเวลา จะมีคิดค่า extra time นะคะ
** ทุกคน ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ ต้องถอดรองเท้า (มีตู้ล๊อคเกอร์บริการฟรี) และ ทุกคนต้องสวมถุงเท้าขณะเข้าร่วมกิจกรรมใน Imaginia (ถ้าไม่ได้นำถุงเท้าไป มีขายที่ด้านหน้าค่ะ)
ถ้าน้องๆติดใจ เค้าก็มีระบบสมาชิกด้วยค่ะ
เอาหล่ะค่ะ ไปชมต่อกันเลยดีกว่า
ที่ Imaginia จะมีพนักงานคอยบริการทุกจุด เมื่อเราจ่ายค่าเข้าเสร็จ เราจะได้สายรัดข้อมือคนละอัน พร้อมกับกุญแจล๊อคเกอร์ หลังจากนั้นก็สแกนเข้าไปกันเลย
พอเข้าไปถึง ก็จะต้องนำรองเท้าไปเก็บกันก่อนที่ตู้นะคะ ทุกคนคนต้องใส่ถุงเท้ ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ ไม่มีข้อยกเว้น ถ้ากลัวเด็กๆลื่น ก็เตรียมรุ่นที่มียางกันลื่นมาด้วยก็ได้ค่ะ
Imaginia แบ่งออกเป็น 19 โซน ฟังดูอาจคิดไปไกลว่า แต่ละโซนละใหญ่ขนาดไหน เอาเป็นว่า เข้าใจง่ายๆแบบนี้ดีกว่า 19 โซน เท่ากับ 19 จุดกิจกรรมค่ะ (แต่ตอนนี้เปิดยังไม่ครบค่ะ ได้ข่าวมาว่า จะมีโซนฟาร์มมาเพิ่มเติมด้วยนะคะ)
มาที่จุดแรก ที่เราจะเจอ คือ GATEWAY เป็นคล้ายจุดให้เด็กๆ ได้ลงทะเบียน ถ่ายรูป กรอก ชื่อ และ อีเมล์ ข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ที่สายรัดข้อมือของเรา
และทุกครั้งที่เราจะเริ่มทำกิจกรรมอะไร เราจะต้องสแกนสายรัดข้อมือก่อน และ เมื่อเสร็จกิจกรรมนั้นๆ แล้ว ก็สามารถกดเลือกให้ภาพ หรือ ไฟล์รูปต่างๆที่เราทำ ส่งตรงไปยัง email ได้เลยทันที คือ เยี่ยมมากอ่ะค่ะ ทันสมัยจริงๆ
แค่จุดลงทะเบียนก็เริ่มสนุกแล้วค่ะ เพราะเด็กๆสามารถตกแต่งรูปถ่ายของเค้าได้ ตามใจชอบ เมื่อตกแต่งจนพอใจแล้ว ก็จะมีตัวนั้นๆ มาปรากฏอยู๋ที่จอภาพขนาดใหญ่ เดินเรื่องไปพร้อมๆกับตัวละครอื่นๆ น่ารักมากค่ะ
ถัดไปเป็น Art Gallery เราจะพบภาพผลงานศิลปะชื่อดังจากหลายๆประเทศ ให้เด็กๆ (หรือผู้ใหญ่ก็ได้) ตกแต่งตามจินตนาการ
เอานิ้วลากแปะ ลากแปะ เหมือนแปะสติ๊กเกอร์ เพลินมากด้วยระบบ interactive คำเตือน!ก่อนเล่นอย่าลืมสแกนสายรัดข้อมือด้วยนะคะ บริเวณนี้มีภาพแบบต่างๆให้ตกแต่งกัน สนุกเพลินจริงๆค่ะ อันนี้เป็นการให้เด็กๆได้สร้างสรรค์ภาพ ตามแต่จินตนาการจริงๆ
ตาลแนะนำว่า ระหว่างกิจกรรมนี้ อย่าพูดขัดเด็กๆเลยนะคะ อย่าพูโประมาณว่าอันนี้ไม่ควรแปะตรงนี้ อันนั้นตลกไป ให้เอาออก …. มันเป็นเวลาเล่นของเด็กๆ ทุกอย่างควรปล่อยตามอิสระค่ะ..
เผอิญเราไปเจอพนักงานคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ดีๆเดินเข้ามา แล้วเอามือลากรูปที่แพมตั้งใจแปะซ้อนกัน ไปทิ้งเฉยเลยค่ะ ลากไปทิ้ง 2 ชิ้น อย่างเร็วๆ แบบไม่ให้แพมตั้งตัว ที่สำคัญ ไม่ได้ถามแพมด้วยนะคะ ว่าขอลบได้มั้ย พูดแต่ว่า ภาพมันซ้อนกัน เอาออกให้ …. เราสองคนได้แต่มองตากันแบบงงๆ เพราะห้ามไม่ทันจริงๆ ตาลพยายามคิดในแง่ดี คือ เค้าคงมองว่าอยากช่วยดูแล หลังจากตาลกับแพมอึ้งซะ3 วิ (ก่อนที่เค้าจะขยับอะไรเพิ่ม) ตาลเลยต้องหันไปบอกเค้าว่า โอเคค่ะ แล้วรีบบอกแพมว่า เอาเลยลูก อยากแปะอะไร เติมอะไร ทำต่อเลยนะคะ คือ อยากใจร่มๆ มาเล่นสนุกๆ ก็เลยไม่ได้บ่นอะไรกับพนักงานผู้นั้น ไม่ได้ติดใจอะไรนะคะ แต่อยากแนะนำผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ ว่าไม่ควรดักจินตนาการเด็กๆนะจ๊ะ (คิดว่าเค้าคงอยากสาธิตให้ดู กลัวเราใช้ไม่เป็น เพราะเพิ่งเปิดใหม่ไรเงี้ยะ 555 คิดแง่บวกเนอะ สบายใจกว่า)
กลับมาเรื่องสนุกของสถานที่ต่อดีกว่า หลังจากเด็กๆได้ แปะ ย้าย ขีด เขียน ตกแต่ง เรียบร้อย จะมีปุ่มให้กด SEND เพื่อส่งภาพๆนั้นไปยังอีเมล์ของเราได้ด้วย… เยี่ยมมากๆเลย เพราะเราจะได้เก็บผลงานลูกกลับบ้านไปเป็นที่ระลึก
ต่อมา (รูปบน) คือ กิจกรรมที่ใครๆก็คงจะอยากลอง นั่นคือ Wonder Car ที่โดดเด่นมากกับรถยนต์ที่มีมังกรนั่งอยู่ ความสนุกของกิจกรรมนี้ คือ เราสามารถวาดรูป ตกแต่ง ลงสี หรือ เขียนข้อความต่างๆ ผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ และ จะถูกแสดงผลไปที่ตัวรถ และ มังกรทันที และแน่นอน เล่นเสร็จ สามารถส่งผลงานการออกแบบไปที่อีเมล์เราได้เช่นกันค่ะ แจ๋วเนอะ
นอกจากนี้ ยังมีห้องกิจกรรมให้เด็กๆได้ลงมือทำ ตามความชอบ แบ่งเป็น Art Cabin และ Builders’ Studio
โซนต่อไป คือ Imaginia Fort โซนที่ให้เด็กๆยืดเส้นยืดสายกันซะหน่อย อุปรณ์การเล่น ต้องบอกเลยว่าใหม่มาก และ สะอาดมากจริงๆ เพราะเพิ่งเปิดสัปดาห์ที่แล้ว สีสันของเครื่องเล่นก็น่ารัก แถมมีบริเวณให้คุณพ่อ คุณแม่นั่งรอด้วย
ส่วนอันต่อไปก็สนุกค่ะ Shadow Forest เป็นการเล่นกับเงา โดยมีเซนเซอร์คอยจับระยะผู้คนที่เข้ามา ภาพที่ได้แปลกตา และ สวยงามมากเลยทีเดียว รับรองว่าผู้ใหญ่ก็สนุกค่ะอันนี้ (แนะนำให้ดูตัวอย่างเต็มๆจากคลิปด้านบนนะคะ)
ถัดมา เป็น Ride to the sky ปั่นกันได้ทุกคนในครอบครัว ด้วยระบบ interactive ภาพด้านหน้าของเราก็จะเคลื่อนไหวตามจังหวะ และ มุมองศาที่เราปั่นจักรยาน
มาถึง highlight ที่ใครๆเล็งไว้ นั่นคือ Time Tube Slider …บอกได้คำเดียวว่า ‘อย่าพลาด’ วันนี้ถามแพมว่าเล่นไปกี่รอบ แพมตอบว่า เกิน20 แต่จำไม่ได้ เพราะวิ่งขึ้นไปมาตลอด สำหรับตัวอย่างความสนุก แนะนำให้ไปดูในคลิปด้านบนเช่นเดียวกันค่ะ
เด็กเล็กสามารถนั่งตักพ่อแม่ได้ พ่อแม่เล่นเดี่ยวได้เช่นกัน (แต่เล่นเป็นคู่พ่อแม่ ไม่น่าจะไหวนะคะ 555) เด็กโตหน่อยเล่นเดี่ยวสบาย และ แน่นอน เด็กๆต้องขอเล่นมากกว่าหนึ่งรอบ (เผื่อเวลาไว้เลยค่ะ)
วันที่ไป คนน้อย เลยเล่นได้สบายมาก ระหว่างทางที่เราลง จะมีกล้องถ่ายรูปเราให้ด้วยค่ะ ตอนแรกนึกว่าแบบสวนสนุกทั่วๆไป ถ่ายแล้วคงให้เราไปซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้านหน้า แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ หลังจากเล่นเสร็จ เราจะเห็นจอทีวีด้านข้าง ให้เราสแกนสายรัดข้อมือ แล้วจะมีภาพเราปรากฏออกมา ที่เลิศคือ เราเลือกภาพที่ถูกใจเป็นของที่ระลึก แล้วส่งอีเมล์ไปให้ตัวเองได้เลย …งานนี้ฟรีค่ะ! เล่น 10 รอบ จะส่ง 10 ภาพเค้าก็ให้
กดเลือกภาพเองตามชอบใจ
ต่อไป เป็นกิจกรรม Meteori Peak เหมาะกับเด็กชอบปีน ชอบไต่
ขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะพบกับ Sound Cloud เรียนรู้เสียงดนตรี ผ่านทางก้อนเมฆ เด็กๆสามารถลองดึงเชือกต่างๆที่มีให้ โดยแต่ละอันจะให้เสียงที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ยังมี Imaginia Town Hall เป็นห้องกิจกรรมเล่านิทานให้เด็กๆฟัง
ที่หน้าห้องจะมีตัวอย่าง นิทานในรอบต่างๆให้ชมก่อนด้วยนะคะ จะมีฉายเป็นรอบๆ ตลอดทั้งวัน แต่ต้องตรวจสอบตารางเวลาก่อนค่ะ
นอกจากนี้ยังมีห้องสมุดเล็กๆ Book Cave ไว้คอยบริการ มุมสบายๆเผื่อเด็กๆ หรือ ผู้ใหญ่อยากพักบ้าง
สำหรับเด็กๆ (และผู้ใหญ่) ที่รักเสียงเพลง ต้องมาทางนี้ กับ DJ Canopy ที่จะเปิดโอกาสให้ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ลองสร้างสรรค์ผลงานเพลงด้วยตัวเอง อันนี้เพลินมากค่ะ แถมมีคลิปตอนเราเป็น DJ ถ่ายให้ด้วย และแน่นอน ส่งอีเมล์กลับบ้านได้เลย
สนุกกันใหญ่ ได้ลองมิกซ์เพลงกันด้วย
ถ้าหิว หรือ ต้องการพัก เค้าก็มีร้านอาหารเล็กๆบริการนะคะ แต่จะเป็นเค้ก และ อาหารว่าง ซึ่งเมนูยังไม่หลากหลาย
มาถึงโซนสุดท้าย โซนที่เด็กๆต้องกระโจนใส่ โซน Dream Jungle นั่นเอง โซนนี้เด็กๆน่าจะถูกใจทุกคน เพราะจะได้ปีนป่าย วิ่ง ปล่อยพลังกันเต็มที่
โซนนี้สนุก ดีไซส์สายงาม น่าประทับใจ แต่แอบเสียดาย(มาก)ตรงที่ ผู้ใหญ่อดเล่น อดปีน อดขึ้นไปด้วย…. แง แง เสียใจ แอบอิจฉาเด็ก อยากได้ไปปีนเล่นแบบนี้บ้าง ไม่น่าห้ามผู้ใหญ่เล่นเลย
สำหรับรีวิว Imaginia ในครั้งนี้ ขอสรุปรวมๆเลยนะคะ
- สนุก ชอบ มีของเล่นที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยดี รู้สึกแปลกใหม่ดีค่ะ (ให้เวลา 3 ชั่วโมง ตาลกับแพมเล่นครบ 3 ชั่วโมงเต็มเลยค่ะ)
- ส่วนตัวคิดว่า เหมาะ และ คุ้มค่า สำหรับเด็กวัยประมาณ 2 – 10 ขวบ (เด็กกว่านี้ ก็มาได้ แต่ยังเล่นได้ไม่ครบ แต่หากโตกว่านี้ ของเล่นบางอย่างอาจจะเด็กไปค่ะ)
- สะอาด (ใหม่กิ๊ก เพราะเพิ่งเปิด)
- มีบริเวณให้นั่งรอ นั่งพัก อย่างไม่อึดอัด
- มีพนักงานคอยช่วยเหลือ ดูแลเกือบทุกจุด
- แต่สำหรับร้านอาหาร มีเมนูไม่หลากหลาย อันนี้เข้าใจว่า เพราะเพิ่งเปิด อาจจะยังไม่ลงตัว แต่หวังว่า กลับไปคราวหน้า จะมีของกินให้เลือกเยอะขึ้นนะคะ
- ถามว่าไปอีกมั้ยเร็วๆนี้?… ตอบเลย (แพมตอบนะคะ) ว่าไปอีกแน่นอนค่ะ… 3 ชั่วโมง ยังไม่จุใจ!!
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.imaginiaplayland.com
หวังว่ารีวิวที่เล่นแนวใหม่ Imaginia นี้ จะพอเป็นไอเดียให้หลายๆครอบครัว อยากพาลูกออกมาเที่ยวนอกบ้านกันนะคะ
อย่าลืมติดตามอัพเดท กับ ตาลและแพม ได้ที่ http://www.facebook.com/YummyMummyTarn
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ
#YummyMummyTarn
———————————————–