‘ญี่ปุ่น..ไปแล้วไปอีก EP.32’ – เที่ยว Beppu นอนที่ Suginoi รีสอร์ทใหญ่สำหรับครอบครัว
ทริปนี้ ไปญี่ปุ่นบินแบบใกล้ๆ ลงเกาะคิวชู(Kyushu) ที่จังหวัดฟุกุโอกะอีกแล้วค่ะ เกาะนี้เค้ามีของดีซ่อนอยู่เยอะนะจะบอกให้ ลองไปแล้วจะติดใจ เอาเป็นว่าทริปนี้เราเลือกไปเที่ยวกันที่เมือง Beppu ซึ่งเป็นเมืองใกล้ๆกับ Fukuoka เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการแช่บ่อน้ำร้อน หรือ onsen นั่นเอง
..เรื่องของการพักผ่อน..
โดยส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวที่แวะมาที่ Beppu จะต้องตามเก็บการเยี่ยมชมบ่อน้ำร้อนชื่อดังของเมืองนี้ให้ครบ เรียกว่าต้องทำการ check-in กันจนตัวเปื่อย เท้าเปื่อย (หากได้ลองแช่ทุกบ่อ)
แต่ตาลไม่ได้พาแพมไปตะลุย check-in อ่ะค่ะ เพราะ ทริปนี้ อยากมาลองพักที่โรงแรมแห่งนี้ดูต่างหาก โรงแรมนี้มีชื่อว่า Suginoi Hotel เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีหลายตึกเลย เป็น resort ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนญี่ปุ่นเอง และ ต่างชาตินิยมมาพักผ่อน
..เรื่องของความพิเศษ(ที่สนุก)..
ความพิเศษที่ทำให้เราอยากมาพักที่ Suginoi Hotel เพราะ เรามีเด็กมาในทริป พร้อมคุณตา คุณยาย เวลามาญี่ปุ่นชั่วโมงของการ onsen มักจะเป็นของตาลเดี่ยวๆ (หลังๆถึงมีแพมมาแจม เมื่อก่อนเค้าไม่เอา เพราะน้ำร้อนเกิน) แต่สำหรับคุณตาคุณยาย ก็ไม่ค่อยไปแช่น้ำกันหรอกค่ะ เค้าไม่สามารถแช่น้ำแบบร้อน 40 องศา ++ ได้ แต่การมาถึง Beppu เมืองเจ้าแห่งการแช่บ่อน้ำร้อนของญี่ปุ่นแล้ว เราก็ต้องให้ผู้ร่วมเดินทางทุกคนได้ลองแช่กันซะหน่อย อาจไม่ออริจินัล แบบเปลือยเปล่า แต่ก็สนุกไปพร้อมกันได้ เพราะที่โรงแรมแห่งนี้ นอกจากจะมี onsen แบบ original ปกติแล้ว ยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ หลายบ่อ ที่เป็นน้ำแร่อุ่นๆ ให้เราสามารถแช่พร้อมกันได้ทั้งครอบครัวด้วยค่ะ ไม่มีเปลือยนะงานนี้ ไม่ต้องห่วง ทุกคนต้องใส่ชุดว่ายน้ำ ส่วนอุณหภูมิก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละสระ เราสามารถเลือกได้
คือ มันไม่ใช่เป็นแค่แบบไปตามโรงแรม แล้วเล่นสระน้ำธรรมดานะคะ อย่าเข้าใจผิด เค้าจะมีหลายบ่อ โดยแต่ละบ่อมึคุณสมบัติที่แตกต่างกันด้วย โซนสระน้ำนี้ เรียกว่า Aqua Garden สำหรับน้ำแร่ธรรมชาติก็มาจากแผ่นดินใต้เมืองนี้แหละค่ะ …Beppu เป็นเมืองขึ้นชื่อของการ onsen อยู่แล้ว…
วิวทะเล ที่มองจาก Aqua Garden น้ำจะอุ่นๆสบายๆ
มีมุมให้พักผ่อนกัน นอนนวดในน้ำอุ่นๆ เวลามาเป็นครอบครัวก็เม้าท์มอยกันได้ตามอัธยาศัย ภาพด้านล่าง เป็นนักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่น ที่ใส่เสื้อยืดทับลงน้ำด้วย เค้าก็ไม่ว่านะคะ สามารถใส่ได้
อันนี้เรามาแช่ในส่วนของ float healing bath เป็นบ่อน้ำเกลือ ที่มีความเข้มข้นสูง จึงทำให้เราลอยได้เลยค่ะ ภาพด้านล่างนี้ขอเซนเซอร์หน้านายแบบนะคะ เพราะ เค้าเป็นใครก็ไม่รู้ พอดีอยากถ่ายตัวอย่างการลอยแบบเต็มตัว แต่ครั้นจะถ่ายตัวเอง ก็ทำไม่ได้ เพราะ ตัวมันลอยยยยย ควบคุมการทรงตัวลำบากจริงๆ 5555 … หากลองสังเกต จะเห็นว่ามีราวจับสีขาวอยู่รอบๆเลย คือเราต้องจับยึดไว้ ไม่งั้นลอยไร้ทิศทางเลยค่ะ… แช่เสร็จแล้วรู้สึกสบายตัวดีนะคะ ซึ่งในส่วนของ float healing bath จะอนุญาตให้แค่ผู้ใหญ่มาแช่เท่านั้น คงกลัวเด็กๆทรงตัวไม่ได้แล้วอาจเกิดอันตราย จึงห้ามเด็กเข้าเลยเด็ดขาด
เนื่องจากบริเวณ Aqua Garden แบ่งเป็นหลายสระย่อยๆ และ บางโซนก็ลึกเกินกว่าแพมจะยืนได้ เพื่อความปลอดภัยเราเลยใส่ปลอกแขนไว้ด้วย ถึงแม้เด็กจะว่ายน้ำเป็นแล้วก็ตาม แต่สระน้ำที่นี่ เป็นบ่อน้ำแร่ ซึ่งเป็นน้ำอุ่น(ถึงร้อน) ไม่เหมาะที่จะว่ายน้ำ ดำน้ำเล่น และ ยังอาจจะรบกวนแขกที่มาพักผ่อนแช่น้ำอยู่ด้วยค่ะ ดังนั้นสระที่นี่จึงเหมาะสำหรับลอยไปมา สบายๆมากกว่า
เค้าจะมีโซนสำหรับเด็กๆด้วย เด็กเล็กๆก็สามารถสนุกได้ ตาลแนะนำเลยสำหรับใครที่ไปเที่ยวแบบครอบครัว ไปแบบนี้เยี่ยมมาก เป็นเวลาดีๆที่ได้ใช้ด้วยกันจริงๆ
–คำแนะนำ– เห็นแบบนี้แล้ว ถ้าหากจะไปพักที่ Suginoi โปรดอย่าลืมชุดว่ายน้ำไปด้วยนะคะ ^^ และ สำหรับเด็กเล็ก อย่าลืมห่วงยาง หรือ อุปกรณ์ช่วยลอยไปด้วย จะได้ปลอดภัย และ สบายใจค่ะ
..เรื่องของ original onsen..
แน่นอนว่านอกจากการแช่ในสระแล้ว เราสองแม่ลูกไม่พลาดที่จะไป onsen แบบแท้ๆกัน ตาลชอบอยู่แล้ว แต่สำหรับแพม ตอนเด็กๆเค้าไม่สามารถ เพราะ ร้อนเกินไป เค้าทนไม่ได้
สำหรับ onsen ที่โรงแรม จะมีทั้งแบบ indoor และ outdoor สำหรับ outdoor มีแบ่งเป็นบ่อเล็กๆส่วนตัวด้วย เราเลือกไปแช่ตอนค่ำ อากาศค่อนข้างหนาว แต่เมื่อได้แช่น้ำแร่ร้อนๆแล้ว จะรู้สึกผ่อนคลายมากจริงๆ
ขออภัย ภาพถ่ายมาไม่ชัด 5555 กล้องมือถือค่ะ เดินตามแพม หลังจากเปลี่ยนชุดยูกาตะ ที่ทางโรงแรมเตรียมให้แล้ว เราก็จะได้รับแจกผ้าเช็ดตัว เพื่อไป onsen กัน
โดยปกติเราจะงดถ่ายภาพขณะ onsen รวมถึงงดถ่ายภาพในห้องแต่งตัวด้วย มันเป็นทั้งกฎ และ มารยาท ที่ต้องปฎิบัติค่ะ ตาลจึงขอนำภาพบรรยากาศบ่อ onsen จากเวปของโรงแรมมาให้ชมแทนนะคะ แน่นอนว่าทุกคนที่ใช้บริการแช่ onsen ห้ามใส่เสื้อผ้า …. onsen ที่โรงแรมนี้มีแบ่งเป็นส่วนของผู้หญิง และ ผู้ชายนะคะ หากใครมาเป็นครอบครัวก็มีให้แช่ด้วยกัน แต่ต้องจองล่วงหน้า
ก่อนที่เราจะแช่ เค้าจะมีบริเวณให้อาบน้ำล้างตัวสระผมให้สะอาดก่อนลง ทุกคนต้องทำนะคะ นักท่องเที่ยวอย่างเราควรปฎิบัติตามด้วย หลังจากแช่เลร็จก็ขึ้นมาล้างตัวกันอีกรอบ… ตัวจะเบาสบายมากๆหลัง onsen..
..เรื่องของกิจกรรมต่างๆในโรงแรม..
Suginoi เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีกิจกรรมสนุกๆหลากหลาย เค้ามี Acquabeat ซึ่งเหมือนสวนน้ำในร่มให้บริการด้วย แต่โซนนี้จะไม่เปิดทั้งปี ส่วนมากจะเปิดแค่ช่วงเดือน กรกฎาคม ถึง กันยายน เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีส่วนของ Game Room มีเกมส์ และ เครื่องเล่นเยอะดีค่ะ ล่อเด็กๆและผู้ใหญ่ที่ชอบเกมส์ได้อยู่หมัดแน่ๆ
ระหว่างเราอยู่ในโรงแรม แขกที่มาพักก็มักจะแต่งยูกาตะเดินไปมา ทำกิจกรรมต่างๆ เป็นบรรยากาศการพักผ่อนที่สบายมากเลยจริงๆค่ะ ชอบมากๆแบบนี้
มีโรงละครขนาดใหญ่ ให้นั่งเอกเขนกดูทีวีจอยักษ์กันด้วย
ยามค่ำ มีเปิดไฟสวยงามทั่วทั้งโรงแรม ใครชอบถ่ายรูปต้องไม่พลาด
เดินเล่นเพลินๆกันยามค่ำคืน
เป็นการพักผ่อนแบบสบายๆ
และยังมีการแสดงแสงสีเสียงอีกด้วยนะคะ
..เรื่องของห้องพัก..
บ้านเราเลือกห้องใหญ่แบบที่มี Western และ Japanese Style รวมกัน คือ จะมีสองฝั่ง ฝั่งเป็นเตียง กับฝั่งไว้ปูฟูกนอน ห้องจะกว้างใหญ่ อยู่สบายค่ะ ใครไม่ถนัดก็นอนบนเตียง ใครอยากได้อารมณ์ญี่ปุ่นก็ปูฟูกนอนกัน นอนพื้นเปลี่ยนบรรยากาศไรเงี้ยะ … ห้อง type นี้เรียกว่า Hon-Kan Japanese-Western Style Room สามารถนอนได้สูงสุด 5 คนเลยค่ะ ถ้ามาเป็นครอบครัว หรือ ลูกเยอะ ก็นอนด้วยกันได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีห้องแบบเตียงอย่างเดียวให้เลือกด้วย Typeของห้องมีหลายแบบให้เลือกนะคะ มีตั้งแต่ห้องเล็กๆจนถึงห้องพักขนาดใหญ่มีส่วนแช่onsenส่วนตัว
ห้องที่เราพักจะมีฉากกั้นแบ่งโซนห้องนอน กับ ห้องรับแขก
แต่พอตอนดึก เราก็สามารถปูฟูกนอน แบบญี่ปุ่นได้ด้วย
นอนให้ได้บรรยากาศของการมาเยือนญี่ปุ่น เราต้องนอนพื้นสินะ (สรุปว่าเตียงไม่มีใคร!!)
วิวจากห้องนอน มองลงไปจะเห็นการแสดงโชว์ไฟที่ด้านล่าง
..เรื่องของอาหารการกิน..
สำหรับเรื่องอาหาร เค้าขอโทษ…เค้าหารูปไม่เจอ!!!! เจอแต่รูปมื้อเที่ยง (รูปหายไปไหนๆ ไม่อยากจะเชื่อ)
หลังจากที่เราเช็คอิน เรามาฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในโรงแรม คือ ร้าน Hanamizuki อาหารที่สั่งมาเป็น Tempura Set อร่อยค่ะ (แอบหิวมากด้วย) สั่งง่ายๆมาทานพอ เพราะ มื้อค่ำเราไปลุยที่ Buffet Restaurant Seeds ห้องอาหารแบบ Buffet นานาชาติของโรงแรม เค้ามีอาหารเยอะมากกกกกก อาหารดีด้วย คือ ถือเป็นมื้อเด็ดเลย ควรค่าแก่การทานค่ะ ไว้จะลองหารูปใหม่ ถ้ามีจะเอามาแปะให้วันหลังนะคะ…. เอาเป็นว่าตาลขอแนะนำเลย สำหรับใครที่จะมาพักที่ Suginoi อย่าพลาด ต้องจอง Buffet เค้าไว้ด้วย !! (ต้องจองล่วงหน้า พร้อมระบุเวลา ไม่งั้นเต็มค่ะ)
สำหรับขาช้อป ด้านล่างของโรงแรม จะมีร้าน supermarket และ ร้านขายของฝาก ของที่ระลึกประจำเมืองด้วย พวกเหล้า สาเก ก็มีขายค่ะ
..เรื่องของการเดินทางไป Suginoi..
- เผอิญช่วงที่ไป ทางโรงแรมเค้ามีบริการรถบัสฟรี รับส่งจาก สถานี Hakata ที่ Fukuoka เลย เราเลยเลือกใช้บริการนั้น อาจนั่งนานกว่ารถไฟหน่อย แต่สะดวกมาก เพราะ ไม่ต้องหิ้วของ ไม่ต้องหาขบวนรถไฟ ฟรีด้วย เราเลือกให้เครื่องบินถึงฟุกุโอกะเช้าตรู่ แล้วนั่งรถมารอรถบัสรอบเช้าที่สถานี Hakata พอได้เวลาขึ้นรถ ก็หลับพักผ่อนหนึ่งตื่นสบายๆ นั่งประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงก็ถึง Beppu ค่ะ มีแวะจอดให้เข้าห้องน้ำหลังจากนั้นไป 1 ชั่วโมง รถบัสสะอาด และ ขับปลอดภัยดี นั่งแล้วสบายใจ บริการรถบัส ต้องจองล่วงหน้านะคะ ติดต่อหลังจากจองโรงแรมแล้วก็ได้ เค้าจะกำหนดคน… ดังนั้น walk-in ไม่มีสิทธิ์นะจ๊ะ สามารถดูตารางเวลา และ รายละเอียด จุดนัดพบได้ที่ http://www.suginoi-hotel.com/english/access.html
- สำหรับช่วงที่ไม่มีรถฟรีจากฟุกุโอกะ ต้องใช้รถไฟนั่งไปสถานี JR Beppu เมื่อถึงสถานีแล้ว จะมีรสบัสเล็กของโรงแรมมารับไปที่โรงแรมฟรีค่ะ บริการนี้มีตลอดทั้งปี
- สำหรับเส้นทางรถไฟ Hakata Sta. — Kokura Sta. — Beppu Sta. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง
- อีกทางเลือกที่น่าสนใจ คือ การนั่งรถบัสตรงไป Beppu เลย แต่อันนี้ต้องเสียเงินนะคะ ไม่ใช่บริการจากโรงแรม แต่สะดวก มีทั้งวัน ออกจากสนามบินเลยก็ได้ หรือ จะจากในเมืองก็มี
- Fukuoka Airport International terminal — Beppu Kitahama Bus Stop (1.55 ชั่วโมง)
- Hakata Bus Center — Tenjin Bus Center — Beppu Kitahama Bus Stop (2.25 ชั่วโมง- นานกว่านั่งรถฟรีของโรงแรม เพราะ ต้องแวะรับที่ Tenjin ด้วย)
..เรื่องของข้อมูลเพิ่มเติม..
ตามไปดูศึกษาเพิ่มเติม พร้อมจองห้องผ่านทางเวปไซต์ของโรงแรม Suginoi ได้เลย ที่ http://www.suginoi-hotel.com/english/index.html
Beppu เป็นอีกเมืองตากอากาศสวยๆ บรรยากาศสบายๆ ที่ตาลกะแพมอยากแนะนำให้ลองไปเที่ยวกันดู เดินทางไปไม่ยาก วางแผนนอนค้างซัก 1 คืน แล้วค่อยกลับเข้าไป Fukuoka ก็ได้ค่ะ ชิลมากๆเหมาะทริปแบบครอบครัว slow life จริงๆ 🙂
ตาล กะ แพม #YummyMummyTarn
ปล. สำหรับ Fukuoka และ เมืองใกล้เคียง มีอะไรน่าสนบ้าง? ลองตามมาอ่านเรื่องที่เคยเขียนได้จาก
https://yummymummytarn.com/2016/03/04/japan-ep22-shopping-fukuoka/
และ พาเที่ยว Huis Ten Bosch https://yummymummytarn.com/2016/03/11/japan-ep-23-2/
————————
>>อย่าลืมติดตามอัพเดท เรื่องราวท่องเที่ยว กับ ตาลและแพม ได้ที่ Yummy Mummy Tarn กินเล่นเที่ยวกับลูก
>>http://www.facebook.com/YummyMummyTarn
>> Blog : http://www.YummyMummyTarn.com
>> YouTube : YummyMummyTarn
———————————————–
© Copyright 2015 YummyMummyTarn.com
เนื้อหา และ รูปภาพ ทั้งหมดในเวป yummymummytarn.com เป็นลิขสิทธิ์ของเวป YummyMummyTarn.com ห้ามนำไปใช้เพื่อการพาณิชย์โดยมิได้รับอนุญาต. All rights reserved.