Taiwan Family Trip – ไต้หวันม้วนเดียวจบ ฉบับกินนอนกับทัวร์ ตอนที่ 2

 

=====================

Day 2 – วันที่ 2

วันแรกเราเดินทางจากกกรุงเทพ และ ตะลุยเที่ยว จนมาพักผ่อนที่รีสอร์ทน้ำแร่ Fresh Fields Hotel ที่เมืองPuli

 

เช้านี้ตื่นมาอย่างสดชื่น เพราะ ที่พักดีมาก ส่วนมื้อเช้า อาหารก็ดีค่ะ เป็น buffet อาหารครบครัน โรงแรมนี้ยังมีส่วนพักผ่อนอื่นๆที่น่าใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น บ่อน้ำแร่แบบ outdoor / indoor คล้ายๆ onsen ของญี่ปุ่น และยังมี kids club ด้วยนะคะ แต่เสียดายเวลาน้อยเกิน เช้าๆทานอาหารเสร็จ ก็ต้องเตรียมตัวออกไปลุยต่อ เลยไม่มีเวลาสำรวจมากนัก ใครที่หาที่พักแถวๆเมือง Puli ลองไปส่องโรงแรมนี้ดูนะคะ ห้องดีมาก แนะนำเลยค่ะ (บางทัวร์ เค้ามีไปพักนะ)

 

img_7783

 

ออกจากโรงแรม ประมาณ 8 โมง นั่งรถบัสกันไปที่ Formosan Aboriginal Culture Village เป็นสวนสนุก และ เมืองวัฒนธรรมที่ หนานโถว ในวันที่ตาลกะแพมไป เป็นวันธรรมดา คนน้อยมาก มีเด็กนักเรียนมาเที่ยวทัศนศึกษาบ้าง แต่บริเวณเครื่องเล่นแทบจะไม่มีคนเลย คณะทัวร์ของเราก็ไม่มีใครเล่นเช่นกัน เหมือนสวนสนุกร้างยังไงก็ไม่รู้ เดินไปมา ยังคิดอยู่เลยว่าจะมีคนมาเล่นบ้างมั้ย… คือ มันไม่น่าเล่นอ่ะค่ะ บรรยากาศเงียบสงัดzzzzzz แล้วเรามาทำอะไร? … ที่เรามาสวนสนุกแห่งนี้ เพราะ ตามโปรแกรมทัวร์แบบเบสิค จะพาไปชมบริเวณ Culture Village ที่มีเรื่องราวของ 9 ชนเผ่า ที่อาศัยที่ไต้หวัน บรรยากาศจะคล้ายๆหมู่บ้านจำลอง ไปดูบ้านเค้า ที่เลี้ยงสัตว์ การจำลองพิธีต่างๆในหมู่บ้าน และ จะนั่งกระเช้าเพื่อชมวิวสวยๆ ของ Sun Moon Lake (ทะเลสาบสุริยันจันทรา)

 

เครื่องเล่นก็แบบสวนสนุกทั่วไป แต่จะไม่ได้ดูใหม่ ยิ่งใหญ่ เร้าใจแบบ Disneyland นะคะ อย่าคาดหวังเช่นนั้น

สำหรับคนที่ชอบเล่น น่าจะสนุก (ถ้าอากาศเย็นๆ)

 

สำหรับในส่วนของหมู่บ้าน 9 ชนเผ่า ก็ไปชมเพลินๆ ถ่ายรูปสนุกๆ… ถามว่ามีอะไรน่าสนใจมากมั้ย? ตอบเลยไม่มีขนาดนั้น 555  แต่ถ้าไม่เคยไป ไปเดินเล่น ดูการจำลองวิถีชีวิตเค้าก็โอเคนะคะ ทัวร์พาไป เราก็ตามไปเนอะ แต่ถ้าคนที่มีเวลาน้อย แบบไปเที่ยวเอง ก็อาจข้ามส่วนนี้ไปได้ (รวมทั้งสวนสนุกด้วย)

 

การเดินเล่นทั้งชมสวนสนุก และ การชม 9 ชนเผ่า กินเวลาไม่นานนัก เพราะ เราไม่ได้แวะเล่นอะไรเลย ของช้อปจะมีแต่พวกของที่ระลึก ไม่มี postcard และ stamp ขาย…

 

 

ในส่วนของห้องน้ำ คิดว่ามาตราฐาน – ไม่หอม ไม่ขาวใส แต่ไม่สกปรก เข้าได้… แต่ตาลไม่ได้แวะเข้าตรงโซน Culture Village ของชนเผ่านะคะ เราไปเข้ากันตั้งแต่บริเวณใกล้ๆกับทางเข้าหลัก หลังจากผ่านประตูตรวจตั๋ว คือ ไปปุ๊บเข้าก่อนเริ่มเที่ยว แล้วอีกจุดที่เข้า คือ ใต้ดิน ตรงโซนสวนสนุก อันนี้ก็พอไหว เข้าได้ แต่กระดาษไม่มี

 

 

ใครสนใจไปเที่ยว Formosan Aboriginal Culture Village ลองดูข้อมูลราคา การเดินทาง และ สิ่งที่น่าสนใจ ได้จากเวปไซต์ของเค้าได้เลยค่ะ

http://www.nine.com.tw/webe/html/information/index.aspx

 

ต่อจากนี้ เราก็ไปนั่งกระเช้ากัน… ที่ Formosan Aboriginal Culture Village มีสถานีของ Sun Moon Lake Ropeway  คนไม่ค่อยเยอะ ไม่มีคิวยาว สบายๆค่ะ

 

 

มองลงไป เป็นบริเวณการแสดงของ Formosan Aboriginal Culture Village 

 

 

อากาศดี ลมไม่แรง นั่งสูง แต่ก็ไม่หวาดเสียว… วิวด้านล่างเป็น Sun Moon Lake ค่ะ

 

 

รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ เขียวไปหมดเลย

 

หลังจากชมวิวบนกระเช้าแล้ว นั่งรถต่อไปนิดพร้อมคณะญาติๆ(คณะทัวร์ส่วนตัวของเรานั่นเอง) เพื่อไปทานมื้อเที่ยง เป็นอาหารจีนบนโรงแรมใกล้ๆกับจุดขึ้นเรือ บริเวณท่าเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา หรือ ที่เราเรียกกันว่า Sun Moon Lake อีกสถานที่เที่ยวสุดฮิต ที่นักท่องเที่ยวไทยต้องไป

มื้อนี้ อาหารแนวจืดตามแบบไต้หวัน แต่ด้วยว่าเรามากับทัวร์ ซึ่งพี่ไกด์ก็แบบรู้งาน ควักน้ำพริกแจกกันเลยทีเดียว จริงๆควักออกมาแจกให้ตั้งแต่มื้อแรกแล้ว อยากบอกว่าน้ำพริกช่วยให้อาหารที่ไต้หวันมีรสชาติอร่อยขึ้นอีกหลายเท่าเลยค่า แหะแหะ… ความเห็นส่วนตัวจริงๆนะ เพราะ เห็นหลายท่านมาไต้หวัน แล้วบอกว่ารสดีถูกปาก คือ ปกติตาลทานรสเข้มข้น แซ่บ จัด ไม่ค่อยจืด เลยอาจไม่ถนัดปากเท่าไร.. อันนี้อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนจริงๆ..

 

 

ก็จบกันไปอีกหนึ่งมื้อ… เมื่อทานเสร็จแล้ว เราเดินไปที่ท่าเรือ Ita Thao กัน

บริเวณที่เราทานข้าว คือ บริเวณท่าเรือ เที่ยวชม SunMoon Lake อันโด่งดัง

บริเวณนี้ยังมีร้านให้เช่าจักรยานด้วยนะคะ เค้าว่ากันว่าเส้นทางรอบๆ SunMoon Lake

เป็นอีกหนึ่งจุดหมายสวยๆสำหรับนักปั่นเลย

 

จุดซื้อตั๋วที่ท่าเรือ Ita Thao ตารางเรือ และ ราคา ดูได้จาก

http://www.sunmoonlake.gov.tw/English/TravelInfoEng/TrafficInfoEng/TrafficRoundEng/BoatEng.htm

 

 

เรานั่งเรือแบบนี้ไป… ดูใหม่ และ สะอาด… เนื่องจากเรามาเป็นกรุ๊ปใหญ่ เราจึงเหมาลำไปสิคะ

 


 

..เริ่มจาก เค้าไปดูอะไร ที่ SunMoon Lake ?..

ดูวิวค่ะ เค้าว่ากันว่าสวยราวกับภาพวาด… ก็หลังจากได้ดูมาแล้ว ก็สวยดีนะคะ นั่งเรือลมเย็นเพลินๆ ที่นี่เป็นทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน มีลักษณะเหมือนพระอาทิตย์ และ พระจันทร์เสี้ยว เลยเป็นที่มาของชื่อ สุริยันจันทรา Sun Moon Lake

 

..แล้วนั่งไปไหน?..

เรานั่งเรือออกจากท่า Ita Thao Pier เพื่อไปที่ท่า Xuanguang Pier  เพื่อไปวัดเสวียนจาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวค่ะ  โดยสำหรับชาวจีน ก็มักจะขึ้นไปนมัสการอัฐของพระถังซำจั๋ง…  สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป บริเวณด้านบนของวัด จะเป็นจุดชมวิวของ SunMoonLake

 

ภายในเรือที่เรานั่งไปกลับ… เดี๋ยวจะไม่เชื่อว่าใหม่..  เค้ายังห่อพลาสติกอยู่เลยนะ!!

 

 

นั่งเย็นๆชมวิวเพลินๆ… แล้วก็เคลิ้ม อยากนอนนนนน

 

 

เรานั่งเรือข้ามมาที่ Xuanguang Temple Pier.. เดินขึ้นไปวัดเสวียนจาง เพื่อชม Sun Moon Lake แบบเต็มๆ

 

 

และเมื่อลงมาด้านล่าง เราจะเจอร้านที่คนต่อคิวเพื่อซื้อไข่ใบชากันค่ะ ไข่หน้าตาแบบนี้ เรียกว่าไข่ใบชาอาม่า คนที่แวะมาวัดนี้ ต้องแวะมาลองชิม

 

 

 

อาม่าที่ขายไข่เค้าดังมาก ดังจน pepsi เคยติดต่อให้ไปเป็น presenter เค้าว่ากันว่า วันๆหนึ่งอาม่าขายไข่ได้เยอะมากกก เยอะขนาดที่ว่ารวยไปแล้ว ปัจจุบันนี้ให้ลูกหลานมาขายแทน ตัวแกเองไม่ได้มาประจำ… วันนี้อาม่ามาขายเอง เลยไปถ่ายรูปซะหน่อย

 

บริเวณวัดนี้ ไม่ได้ใช้บริการห้องน้ำนะคะ ประเมิณเองจากสภาพแวดล้อมว่าไม่น่ารอด… เลยไม่แวะไปชม

จึงของดการรายงานสภาพห้องน้ำ ณ จุดนี้

 

 

ระหว่างนั่งเรือกลับ เจอรุ้งกินน้ำด้วย…  โดยรวม Sun Moon Lake ก็มีความสวยงามตามท้องเรื่อง

คือ มาถึงไต้หวันแล้ว เค้าว่าต้องมาชมซักครั้ง

 

ข้อมูลเพิ่มเติม วิธีการไปเที่ยว  sun moon lake ด้วยตัวเอง

 

 

กลับมาที่ฝั่ง นั่งต่อไปวัดกวนอู … ดูตารางแล้วก็งงนิดหน่อย ว่าตกลงเรามาทัวร์ไหว้พระ? 555 ตาลและญาติที่ไปกัน ไม่ได้เป็นพุทธนะคะ เรานับถือศาสนาคริสต์ (คาทอลิก) แต่เราก็ไปวัดต่างๆตามโปรแกรมของนักท่องเที่ยวอยู่ดี… ก็ไปเที่ยวหนิคะ ถือว่าไปดูอะไรใหม่ๆ ดีต่อประสบการณ์ชีวิต และ สำหรับไต้หวัน ถ้าไม่ไปวัด แล้วจะไปไหน?… ดังนั้น เราก็ตามตารางทัวร์แบบเบสิคเลย ไปวัดเหวินอู่ หรือ วัดกวนอู ซึ่งชาวจีนและไต้หวันนับถือกันมาก

 

ถึงปุ๊บ… ลุยเลยค่ะ… ลุยไปต่อคิวห้องน้ำกันเลย แหะแหะ… ห้องน้ำก็…. ก็แบบว่า ต้องเข้าค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องนั่งรถต่ออีกนานแค่ไหน.. เนอะเนอะ.. สำหรับเด็ก ต้องหัดปรับตัวค่ะ 5555 ของจำเป็นที่ควรมี คือ ยาดม (ความคิดเห็นส่วนตัว)

 

 

สำหรับที่วัดกวนอู ตัววัดดูยิ่งใหญ่ สวยงามดีนะคะ ตาลไม่ได้ขึ้นไปจนถึงชั้นที่คนเค้าไปไหว้พระกัน แต่ไกด์บอกว่า มีทั้งหมด 3 ชัน ไหว้พระชั้นแรก สำหรับนักเรียน เด็กๆ ที่ต้องการให้เรียนเก่ง เรียนดี ไหว่พระชั้นที่สอง สำหรับเรื่องครอบครัว เรื่องขอลูก และ ชั้นที่สาม สำหรับขอพรในหน้าที่การงาน บริวารไรเงี้ยะ… อันนี้ฟังไกด์มานะคะ ไม่ได้ศึกษาเอง หากข้อมูลไม่ถูกต้อง บอกกันได้นะ ตาลก็จำเค้ามา เวลาไปกับทัวร์ก็เงี้ยะ… 5555

 

ผ่านมา 2 วันเต็ม… พาลูกเที่ยวไต้หวัน มันสนุกตรงไหน?… ใจเย็นๆ รอบนี้ที่เที่ยวเด็กอาจน้อย แต่จะบอกว่าแพมก็สนุกนะคะ เค้าได้เห็นสถานทีใหม่ๆ แปลกตากว่าที่เคย แถมการมากับทัวร์แบบนี้ สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ คือ แพมตั้งใจฟังสิ่งที่พี่ไกด์อธิบาย เสมือนหนึ่งครูมาเล่าให้ฟังเลยอ่ะ…  อะไรที่เป็นสาระ แพมก็ตั้งใจฟัง และพอลองถามดู เค้ารู้เรื่องนะ เค้าจำได้ว่าพี่ไกด์เล่าอะไร ถึงไหน อย่างไรบ้าง ซึ่งตรงนี้ หลายๆครั้งที่เราเดินทางเอง อาจไม่มีข้อมูลแบบนี้ให้แพมแบบเต็มๆ (พี่ไกด์อย่ามั่วละกัน ไม่งั้นหนูคงได้ความรู้แบบผิดๆแนะๆเลย 555)

 

ตาลกะแพมไม่พลาดที่จะซื้อ Postcard และ เขียนส่งกลับมาหาตัวเองอย่างเคย

 

เหนื่อยเหมือนกัน..  เที่ยวทั้งวันเลยนะ.. อีกหนึ่งข้อดีของการไปทัวร์ คือ มีเวลาได้พักขาระหว่างนั่งในรถบัส เพื่อไปเที่ยวจุดต่อไป…

 

และแล้วก็ถึงมื้อเย็น… เย็นนี้กินชาบู ชาบู เป็น buffet อิ่มอร่อยใช้ได้เลย..  hightlight คือ หม่าล่าชาบู ซุปแบบเข้มข้นสไตส์ไต้หวัน มีกลิ่นพวกสมุนไพรยาจีน และ รสชาติจะเผ็ดหน่อย ตาลโอเคนะคะ เคยทานที่เมืองไทยแล้ว มาถึงถิ่นก็ต้องลองของแท้บ้าง แต่บางคนที่มาด้วย ก็ไม่ชอบซุปแบบนี้ เค้าบอกกลิ่นแรง เค้าก็สามารถเลือกเป็นซุปใสธรรมดาแทนได้

 

Buffet ก็มีเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ และ ซีฟู๊ด พร้อมของจุกจิกหลากหลาย และ ของหวาน ไอติม แถมมีชานมไข่มุกให้ด้วย  จริงๆรูปให้ดูเยอะมาก แต่ด้วยความผิดพลาดบางประการ รูปมื้ออาหารนี้เลยโดนลบไป เหลือแค่เท่านี้

 

 

น้ำจิ้มมีให้เลือกอย่างเยอะ พร้อมเครื่องปรุงให้ผสมเอง

ตรงนี้แหละ…  ทำไมบางคนบอกชาบูเค้าอร่อย ในขณะที่บางคนบอกว่าชาบูเค้าแย่มาก

เพราะ  เรื่องของชาบู ต้องมีน้ำจิ้มเป็นส่วนประกอบหลักเพิ่มความอร่อย

เนื้อจะนุ่มดีอย่างไร แต่หากไร้น้ำจิ้มที่ถูกใจ ชาบูนั้นก็ถือว่าธรรมดา

 

 

อิ่มมากมื้อนี้….  คืนที่สอง เราพักที่โรงแรมเล็กๆ ชื่อ City Resort ห้องพักก็สะอาดดีค่ะ อยู่ได้ แต่ถ้าเทียบกับโรงแรมที่มีบ่อแช่น้ำแร่ส่วนตัวแบบเมื่อคืน..  มันคนละเรื่องเลยนะ!!! 5555  ส่วนมื้อเช้า… ไม่ผ่าน ไม่ผ่าน ไม่ผ่าน…

 

 

ใกล้ๆโรงแรม เดินนิดเดียว มีซุปเปอร์ใหญ่ด้วย เป็นซุปเปอร์แบบ Local … จริงๆติดๆโรงแรมมี 7-11 / family mart แต่เราอยากไปสำรวจร้านใหญ่ๆเช่นเคย เพลินดีค่ะ ไปดูของกิน ของใช้ แบบที่คนไต้หวันบริโภคจริงๆ

 

โดยระหว่างทาง พบตู้เกมส์หลอดเหรียญเรียงรายแบบเหงาๆหลายตู้อยู่ เลยถ่ายรูปมาให้ชม

 

ชมแล้วบอกมาค่ะ… ว่าไต้หวัน เหมือนญี่ปุ่น หรือ เมืองจีนคะ? 5555  หลายๆคนชอบบอกว่าไปไต้หวันเหมือนไปญี่ปุ่นเลย…  เหรอ???   ส่วนคนไต้หวัน (มีเพื่อนเป็นไต้หวันหลายคนอยู่) เค้าจะยืนยันชัดเจนว่า ‘เค้าไม่ใช่จีน’!!

 

 

รูปสุดท้าย ก่อนปิดเรื่องเล่าพาลูกเที่ยวไต้หวัน วันที่ 2

ขอจบด้วยขวดนี้ ชานม สุดฮิต ของเหล่าคนไทย ที่ต้องไปแบก ไปซื้อกัน

หาซื้อได้ตามร้านซุปเปอร์ และ ร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลยนะคะ

 

 

ตาลกะแพม #YummyMummyTarn

#พาลูกเที่ยวไต้หวัน  #เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง #ไทเปไปไหนดี

 

Taiwan Family Trip – ไต้หวันม้วนเดียวจบ ฉบับกินนอนกับทัวร์ ตอนที่ 3

 

Taiwan Family Trip – ไต้หวันม้วนเดียวจบ ฉบับกินนอนกับทัวร์ ตอนที่ 1

Taiwan Trip – มินิรีวิว Plaza Premium Lounge ที่สนามบิน TAOYUAN ไต้หวัน

 


Shupatto Thailand กระเป๋าผ้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

www.Facebook.com/ShupattoThailand