2 วัน 1 คืน เที่ยวกาญจบุรีแบบสบายๆ EP.1 ใส่ชุดไทยไปย้อนยุคที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124
อยากไปกาญจบุรีค่ะ ตาลไม่ได้ไปมาเป็นสิบๆปีแล้ว ส่วนแพมไม่เคยไปเลย เราเห็นมีที่เที่ยวเปิดใหม่ เมืองมัลลิกา เราเล็งหาเวลาเหมาะๆ และ แพ๊คกระเป๋าขับรถไปกันเลย
แผนการเที่ยวครั้งนี้วางไว่อย่างหลวมๆ จะไปแค่ไม่กี่ที่ค่ะ เน้นมาพักผ่อนสบายๆ เอาหล่ะ พร้อมแล้ว ไปกันเลย
..8 โมงเช้า ล้อหมุนจากใจกลางกรุงเทพ..
เราเข้าสาทร วิ่งทางสะพานตากสิน ข้ามไปเพชรเกษมเชื่อมกับบรมราชชชนี วิ่งไปเรื่อยๆ เข้าสู่นครชัยศรี มุงหน้าไปยังนครปฐม – ราชบุรี – บ้านโป่ง (ตามทางหลวงหมายเลข 4) ขับไปเรื่อยๆจะเห็นป้ายป้ายกาญจนบุรี (หมายเลขทางหลวง 323) พอเข้าเส้น 323 ก็เข้ากาญจนบุรีแล้ว
ใครๆก็บอกว่า น่าจะประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง แต่เราใช้เวลาประมาณ 2 โมงกว่าๆเลยค่ะ เพราะ เราไปกันในเช้าวันศุกร์ ไม่ได้เป็นวันหยุด เลยติดตั้งแต่สาทร แต่พอข้ามสะพานตากสินได้ ก็ขับสบายๆนะคะ เส้นทางไปขับไม่ยาก และ ไม่ซับซ้อน บ้านเราไม่หลง บ้านอื่นก็ไม่น่าหลง
ถึงที่กาญจบุรีราวๆ 10 โมงกว่า (ถึงถนนแสงชูโต) แต่เราต้องขับรถต่อเข้าไปอีกพักนึง เพื่อจะไปเมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ซึ่งเป็นจุดหมายของเราในวันนี้
ระหว่างทางเห็นร้านอาหารที่ดูดี๊ดูดี เราเลยแวะซะหน่อย เพื่อไปทานมื้อกลางวันให้เสร็จ แล้วค่อยไปที่เรือนมัลลิกาดีกว่า
เราแวะร้านนี้เลย คีรีมันตรา
ร้านนี้วิวสวยมากกกกกก ประทับใจเลยค่ะ
แวะมาชิมด้วยความบังเอิญ เพราะ อยากหาร้านน่านั่ง และ อยากหาห้องน้ำสะอาดๆเข้า
ห้องน้ำอลังการมาก มีน้ำตกด้วย
ส่วนบรรยากาศของร้านนี้เลิศที่สุดเลยค่ะ
วันที่เราไป อากาศเย็นมาก เย็นขนาดที่แพมขอเสื้อหนาว 2 ชั้น
ลมพัดแบบ… โอ้ยยย ดีจัง นี่คือกาญจนบุรีจริงๆเหรอ
วิวเป็นทุ่งหญ้า และ ภูเขา สวยงามมาก
คือ นึกว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเลยนะคะ ไม่นึกว่าจะมีบรรยากาศแบบนี้ในร้านอาหาร
สรุปว่า ด้วยความบังเอิญ เราได้ลองหนึ่งในร้านอาหารที่วิวสวยของกาญจนบุรีอย่างไม่ตั้งใจ (แต่ประทับมาก)
เมนูมื้อนี้ ถ่ายรูปมาให้ชม แค่สองอย่าง อีกจานถ่ายไม่ทัน(กินไปแล้ว)
มีหลายเมนูน่าทานมาก แต่เราสั่งกันมาแค่นี้ ง่ายๆ เพราะ จะรีบกินรีบไปเที่ยวเมืองมัลลิกาค่ะ
ที่เราลองทานมี หมูกรอบน้ำตก พริกขิงปลาดุกฟู และ คอหมูย่าง อร่อยดีค่ะ 🙂
สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด…
–พิกัด–
ร้านอาหาร คีรีมันตรา
ที่อยู่ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ ทุกวัน 10.00-22.00 น.
โทร. 0 3454 0889
===================
ระลึกความเป็นไทย แต่งชุดไทยเดินเล่นสวยๆกันที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124
หลังจากอิ่มสบาย เราขับรถต่อไปอีกไม่นาน ก็ถึงจุดหมายการเที่ยวของเราในวันนี้ นั่นก็คือ เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124
เมืองมัลลิกา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ของกาญจณบุรี เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา Theme ของเค้า คือ เป็นเมืองจำลองในยุคสมัยของรัชกาลที่ 5 มีการสร้างบ้านเรือน และ สถาปัตยกรรมต่างๆ ในแบบโบราณ พนักงานก็แต่งตัวแบบชาวบ้านในยุคสมัยนั้น เราจะได้เห็นการใช้ชีวิต และ วัฒนธรรมต่างๆ แบบย้อนยุคกันเลย
ถึงปุ๊บ… แวะซื้อตั๋วเข้าชมก่อนเลย เค้าจะมีโปรโมชั่นลดราคาหลายตัวอยู่ อย่าลืมสอบถามก่อนซื้อ มีโปรแบบสำหรับครอบครัว พ่อแม่ลูก(3คน) ในราคาพิเศษด้วย
**hightlight ที่ไม่ควรพลาด และ ดูเหมือนว่า นักท่องเที่ยวทุกท่านจะชอบใจ คือ มีการให้เช่าชุดไทย เพื่อให้ใช้เดินเล่นภายในเมืองมัลลิกาด้วย ใครอยากเป็นแม่หญิง หรือ นายท่าน ก็จัดเต็มกันได้เลยค่ะ ส่วนตาลกะแพม.. ไม่มีพลาด
หากต้องการจะเช่าชุด ให้แจ้ง และ จ่ายเงิน ตั้งแต่ตอนซื้อตั๋วเลยนะคะ แล้วจะได้ใบไปรับชุดอีกที
เมื่อได้ตั๋วแล้ว … ไปไหนต่อดี?… ไปห้องน้ำให้เรียบร้อยสิคะ… อย่าเพิ่งไปเปลี่ยนชุดไทยนะ… เพราะอะไรหน่ะเหรอ? เพราะ เราเป็นไทยสมัยใหม่ รู้หรือไม่ว่าการปวดห้องน้ำระหว่างใส่โจงกระเบนมันลำบาก!!! ตตาลขอแนะนำให้จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปเช่าชุดค่ะ ^^
ห้องเช่าชุด ก็อยู่ด้านหน้าทางเข้า มีชุดให้เลือกทั้งสำหรับผู้หญิง ผู้ชาย และ เด็กๆ
มีร่มให้ด้วยนะคะ ถือแล้วสวย แถมยังกันแดดได้จริงนะ
ชุดหลากสี เลือกได้ตามสบาย
มีอุปกรณ์ครบชุดให้สวยแบบจัดเต็มนะคะ เข็มขัด สร้อย กำไล ตุ้มหู(แบบหนีบ) ร่ม จัดให้พร้อมมาก
มีรูปแนะนำในการเลือกชุดด้วย
พอเลือกเสร็จ ก็นำไปที่ห้องแต่งตัว
ถ้าแต่งเองเป็น ก็ลุยค่ะ ถ้าแต่งไม่เป็น (เหมือนตาล กะ แพม) ก็รอพี่พนักงานมาช่วยเหลือ
มีล็อคเกอร์ พร้อมกุญแจ ให้เก็บของ แต่ตาลไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูนะคะ เพราะ มันเป็นห้องแต่งตัวแบบเปิดโล่งเลย ใครใคร่ถอดก็ถอด ตาลว่าไม่สมควรเท่าไรที่จะหยิบหล้องขึ้นมา ไมอย่ากทำให้คนอื่นๆไม่สบายใจค่ะ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีภาพประกอบนะ
ความคิดเห็นส่วนตัว และ ข้อแนะนำในการเช่าชุดไทยที่เรือนมัลลิกา
- มีล็อคเกอร์ให้เก็บของ สามารถนำเสื้อผ้าใส่ไว้ได้ ส่วนกระเป๋าสะพาย ของมีค่า ควรนำติดตัวไปน่าจะดีกว่า
- ไม่มีรองเท้าให้ยืม ถ้าอยากเป๊ะ ควรเตรียมรองเท้าให้เข้าชุดมาจากบ้านไปเที่ยววันธรรมดา คนน้อยกว่าเสาร์อาทิตย์
พวกเสื้อผ้าที่ให้ยืม ค่อนข้างดูสะอาดใหม่ คนไม่เยอะ ไม่มีการแย่งกัน ในวันธรรมดา - แต่ได้ข่าวมาว่า หากไปวันหยุดเสาร์ อาทืตย์ คนจะแน่นมาก แนะนำให้ไปแต่เช้า ไม่งั้นชุดอาจหมด
- มีชุดบริการสำหรับเด็ก และ ผู้ใหญ่
- หากใครมีชุดอยู่แล้ว นำมาเปลี่ยนเองได้ค่ะ ใช้ห้องแต่งตัวของที่นี่ได้เช่นกัน
- แพมก็เอาชุดไทยไปเอง (เพราะกลัวหมด) ส่วนตาลไปเช่าเอาค่ะ
- สำหรับคุณผู้หญิง เวลาใส่สะไบ ไม่ต้องห่วงโป้นะคะ ชุดชั้นในใส่ได้ตามปกติ แค่เก็บสายหนึ่งข้างเท่านั้น ดังนั้นอย่ากังวลไป และ แนะนำว่าใครสะดวกใส่ขาสั้นไป ก็ดีนะคะ เพราะ สามารถใส่โจงกระเบนทับไปได้เลย ไม่ต้องถอด
ข้อเสียที่เจอ
- ถ้าคนเยอะ (ในห้องแต่งตัวหญิง) พนักงานที่คอยช่วยเหลือการแต่งตัว มีไม่เพียงพอ
- ไม่มีคิวรอการช่วยเหลือในการแต่งตัวที่เป็นระเบียบ ควรมีการจัดระเบียบด้วย
- ห้องเปิดโล่งเลย ควรมีฉากกั้นอะไรบ้าง
- และ ข้อนี้ ค่อยข้างรู้สึกไม่ดีเลย คือ ห้องแต่งตัว มีแบ่งเป็นหญิงและชาย ฉากกั้นไม่มี ต้องถอด ต้องเปลี่ยนกันในห้องเลย ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว แต่ปรากฎว่า เจอพนักงานชายสองท่าน เดินเข้าออกมาเป็นว่าเล่น เข้าใจนะคะว่าพนักงานชายสองท่านนี้ เป็นสาว… แต่ยังคงแต่งตัวเป็นชาย และ ไม่น่าจะมีความสมควรในการเข้ามาพูดคุยกับพนักงานหญิงในห้องแต่งตัวของผู้หญิงแต่อย่างใด ไม่ได้แอนตี้ในเรืองเพศที่ 3 นะคะ อย่าดราม่า เพียงพบว่าอันนี้ดูแล้วไม่สบายใจ คิดว่าไม่เหมาะสมค่ะ
- ส่วนข้อสุดท้ายที่เจอ ยิ่งหนักใหญ่ คือ ปล่อยให้แฟนของลูกค้า มานั่งรอด้านในห้องแต่งตัว… คือ เรากำลังจะเปลี่ยนชุด เรียกง่ายๆว่า ถอดสะไบ ถอดเสื้อผ้า ซึ่งจะพยายามถอดให้ละเมียดที่สุด มันก็โป้บ้างอยู่ดี แล้วเราก็ต้องชะงัก เพราะ เจอแฟนของลูกค้านั่งอยู่ในห้องแต่งตัว ในขณะทีเจ้าหน้าที่ ไม่ว่ากล่าวอะไรเลย (เค้าก็แต่งตัวให้ลูกค้าไป) … ตาลไม่รู้หรอกนะคะ ว่าเรื่องนี้ คนอื่นคิดกันอย่างไร แต่ตาลว่ามันไม่เหมาะสม และ แปลกมาก ที่ห้องก็เขียนอยู่ว่า ห้องแต่งตัวผู้หญิง ซึ่งภายในห้องไม่มีม่านกั้น ถอดกันก็โล่งๆแบบนี้ ขนาดแพมเป็นเด็กยังถามเลยว่า ให้ถอดตรงนี้เลยเหรอ? ตาลต้องเอาผ้ามาปิดให้เค้า เด็กยังอายเลยค่ะ แต่นี่มาเจอคุณผู้ชายนั่งในห้องหน้าตาเฉย มันผิดที่ไปมั้ย?… ตาลทำอย่างไร? ตาลไม่กล้าถอดเลยสิคะ… ก็เลยถามพนักงานตรงนั้นแหละว่า ‘สรุปห้องนี้ให้ผู้ชายเข้าได้? ตะกี้พนักงานชาย(ที่เป็นสาว) 2 คนเดินไปมา และ ตอนนี้ผู้ชายแท้ๆนั่งรอ.. มันไม่ควรรึเปล่าคะ?… เค้าได้แต่ยิ้ม แล้วตอบว่า แฟนลูกค้าค่ะ สงสัยมาเอาของ… แล้วก็เฉย… ตาลก็เลยบอกคุณแฟนของลูกค้าเอง ว่า อันนี้ห้องแต่งตัวหญิง ผู้ชายไม่น่าจะควรเข้ามานะคะ… เค้าก็คงเอือมตาลหล่ะค่ะ ก็นั่งพูดคุยต่อกับแฟนอีกนิดก่อนยอมเดินออกไป… คือ ตาลก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยต้องบอกเอง จัดการเอง ไม่งั้นมีสองทาง คือ ถอดไปเลย แบ่งๆกันดู หากไม่กล้าพูดโดยตรงให้เค้าออกไป กับ สอง รอจนเค้าออกไปเอง (แจ้งพนักงานแล้ว เค้าเหมือนไม่กล้าบอกแฟนลูกค้า คงกลัวโดนว่ามั้งคะ.. ไม่เป็นไร จัดการเองก็ได้)
- ทั้งหมด เป็นข้อเสียที่พบในห้องแต่งตัวหญิงที่เมืองมัลลิกา ซึ่งตรงนี้ไม่ได้จะมาดราม่านะ แต่หากใครรู้จักผู้ที่เกี่ยวข้อง รบกวนฝากคอมเม้นท์ให้ด้วย มีแค่นี้จริงๆที่อยากให้ดูแลเพิ่มเติม นอกนั้นโดยรวม ประทับใจ และ ชอบที่เมืองมัลลิกามาก ถึงแนะนำให้ใครๆลองไปเที่ยวกัน
…จบเรื่องแต่งตัวละ ได้เวลา ไปย้อนยุค สนุกกันดีกว่า…
เริ่มจากประตูทางเข้า จะมีรถลากให้บริการด้วย
ขอต้อนรับสู่ เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124
เราสองคนพร้อมแล้ว .. ไปย้อนยุคกันเลย
เอาชุดไปเอง… คาดว่าผิดสมัย ^^ บรรยากาศภายในสวยงามมาก เหมือนหลงเวลาไปอยู่ในเมืองจำลองเลยค่ะ
ใครอยากชมรอบๆ โดยไม่ต้องเดิน ก็มีบริการนะคะ
ภายในมีการจำลองวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยก่อน และ มีร้านค้า ขายของ ขายอาหารด้วย สามารถรับประทานอาหารภายในเมืองมัลลิกาได้
แพมได้ไปลองชูดมะพร้าวดูด้วย ยากและเมื่อยเหมือนกันนะเนี้ยะ สนุกดีค่ะ
ที่นี่มีเงินแบบโบราณให้ใช้แทนเงินแบบปัจจุบันค่ะ
เราต้องแลกเงินก่อนที่จะนำมาซื้อของภายในเมืองมัลลิกา
เงินเท่มากๆ ใช้ไม่หมด แลกคืนได้ค่ะ
เด็กๆได้เห็นได้สัมผัสชีวิตอย่างไทยๆอย่างใกล้ชิด
ดูเป็นไทยบ้างมั้ยเจ้าคะ? …
มีครบทุกบรรยากาศเลยค่ะ… ที่เมืองมัลลิกา พนักงานจะแต่งชุดไทยกันทุกคน พร้อมกับเวลาพูดกับเรา จะลงท้ายด้วย ‘เจ้าค่ะ เจ้าคะ ขอรับ’
ตาลขอเป็นแม่หญิง เดินช้อปปิ้งหน่อยนะคะวันนี้
บรรยากาศมันได้.. แต่งชุดไทยเดินเล่นมันสบายดีเหมือนกันนะ
รับขนมครกมั้ยเจ้าคะ?
ขนมไทยโบราณหายาก มีขายเยอะมาก ใครชอบลอง ควรมาอย่างยิ่ง
อาหารคาว ของทานเล่นก็เยอะอยู่ เผื่อท้องมาทานได้เลย
มาถึงเมืองย้อนยุค เราก็ไม่พลาดที่จะส่งไปรษณีย์กลับบ้าน
เมืองมัลลิกา เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีสำหรับเด็กจริงๆ.. เค้ามีแปลงปลูกข้าว พร้อมโรงสีข้าว สาธิตให้ชมด้วยนะคะ
เวลาไปเที่ยว หลายคนต้องอยากรู้บ้างแหละ ว่าห้องน้ำเป็นอย่างไร… เอารูปห้องน้ำมาฝากค่ะ มีห้องน้ำสำหรับคนพิการด้วย โดยรวมสะอาด มีหลายจุดในเมือง (ตาลไปวันธรรมดา คนไม่เยอะมาก)
อากาศเย็นมากแล้ว ขอกลับก่อนดีกว่า ชุดไทยของคุณแพมกลายเป็นเยี่ยงนี้เสียแล้วเจ้าค่ะ ..
วันนี้สนุกมากจริงๆ… ประทับใจกับ theme สร้างสรรค์แบบนี้มาก… ตาลมีเอารายละเอียด และ ราคาค่าเข้าชมเมืองมาให้ชมค่ะ
(cr.รูปแผนที่ และ รายละเอียดจาก facebook.com/MallikaR.E.124)
…พิกัด…
เมืองมัลลิกาตั้งอยู่ตรงทางเข้าประสาทเมืองสิงห์ ติดปั๊มบางจาก ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญฯ ห่างจากตัวเมืองกาญ 32 กม.
Google Map: https://goo.gl/f2hNPZ
https://www.facebook.com/pg/MallikaR.E.124
ติดต่อ : 034 540 884
เมืองมัลลิกา ไปจากกรุงเทพ ไม่ลำบากเลย ถ้าขยันไปเช้า-เย็นกลับได้แบบสบายๆ แต่ถ้าหากกลัวคนขับเหนื่อย และ อยากไปเที่ยวที่อื่นๆด้วย แนะนำให้ค้างซักคืนก็ดีเลยค่ะ จัดเป็นทริปลั้นๆสำหรับครอบครัวได้แบบสบายๆ
โดยรวม ประทับใจมาก ชอบมาก ประกอบกับวันที่ไปอากาศหนาวมาก เลยเดินเล่นสนุกสนาน ชิลมากเลยค่ะ บรรยากาศดีไปหมด… แต่ถ้าช่วงฤดูร้อน ความสนุกอาจลดลงระดับหนึ่ง เพราะ ต้นไม้ไม่เยอะ อากาศน่าจะร้อนเอาเรื่อง แนะนำให้ทาครีมกันแดด และ กางร่มค่ะ
ทริปกาญจณบุรีแบบสั้นๆของเรายังไมจบค่ะ
ตอนหน้า EP2 พาไปปีนป่ายที่น้ำตกเอราวัณ ตามมาอ่านได้ที่
http://wp.me/p63JKY-1ii ได้เลยนะคะ
ไทยเที่ยวไทย.. สนุกเพลินจริงๆ
ตาล กะ แพม #YummyMummyTarn
================
>>อย่าลืมติดตามอัพเดท เรื่องราวท่องเที่ยว กับ ตาลและแพม ได้ที่ Yummy Mummy Tarn กินเล่นเที่ยวกับลูก >>http://www.facebook.com/YummyMummyTarn
>> Blog : www.YummyMummyTarn.com
>> YouTube : YummyMummyTarn
>> Line ID : @yummymummytarn
>> IG : yummymummytarn