‘ญี่ปุ่น..ไปแล้วไปอีก EP.43’ – เที่ยว 1 วัน กับ hightlight ต่างๆในเมืองโกเบ
ไปไหนดี.. กับ 1 วันในโกเบ
Kobe(โกเบ) หนึ่งในเมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น ที่อยู่ไม่ไกลจาก Osaka หากนั่งรถไฟ จะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ถึง สี่สิบนาทีเท่านั้น (แล้วแต่ว่าเรามาจากสถานีไหนในโอซาก้า) นักท่องเที่ยวมากมายจึงเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวเมืองโกเบ แบบเช้าเย็นกลับ หรือ แวะเป็นทางผ่านระหว่างเมืองต่างๆ หลายท่านอาจเลือกนั่งรถไฟจาก Osaka เพื่อมาทานมื้อเย็นที่นี่ พร้อมชมวิวของอ่าว Kobe ที่เปิดไฟสวยงามยามค่ำคืน
เราเลือกที่จะไปเที่ยวแบบสบายๆ ออกจากโอซาก้าสายๆ ไม่เร่งรีบ แพลนง่ายๆ กับ 1 วันในโกเบ
pass โซนนี้มีเยอะมาก เลือกซื้อกันไม่ถูกจริงๆ แต่เนื่องจากเราไม่ได้ซื้อพวก JR Pass
เราเลยต้องเลือก Pass แบบ one day trip ที่เหมาะสม
pass ที่เราเลือกวันนี้ คือ Hanshin Tourist Pass
เพราะโรงแรมที่พักของเรา สามารถเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี Osaka-Namba ได้เลย จึงค่อนข้างสะดวก
และเหมาะสมกับ Pass นี้ โดยเราสามารถแวะไปจุดหมายต่างๆ ตามสายรถไฟ Hanshin (ดังรูปด้านล่าง)
Hashin Tourist Pass
- ราคาเพียง 700 เยนเท่านั้น ใช้ได้ทั้งวัน จากโอซาก้า ถึง โกเบ
- ขายให้เฉพาะนักท่องเที่ยว
- ต้องใช้ passport เวลาไปซื้อ
- สามารถส่งตัวแทนไปซื้อได้ แต่ต้องนำ passport ตัวจริงของทุกคนที่จะไป แสดงตอนซื้อด้วย
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมดูว่าขายที่ไหนบ้าง ได้จาก http://www.hanshin.co.jp/global/en/tourist/
- ตาลกะแพม ไปซื้อที่ BIG Camera สาชา Namba ที่ชั้น 1 (ซื้อก่อนวันเดินทาง 1 วัน)
- ที่สนามบินก็มีขาย ใครสะดวกจะซื้อตั้งแต่เครื่องลงที่คันไซเลยก็ได้
- ใช้สะดวกดี ไม่งง
เริ่มทริปกันเลย… เราออกจาก namba สายๆ นั่งรถไฟจากสถานี Osaka-Namba มาลงที่ Kobe-Sannomiya ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
จุดหมายแรกของการมาโกเบ คือ การมาทานเนื้อโกเบสิคะ 🙂
ร้านที่เราเจาะจงมา คือ ร้านที่หมู่คนไทยฮิตกันเหลือเกิน เราเลยขอมาลองบ้าง
นั่นคือร้าน Steak Land เขียนรีวิวไปแล้ว ตามมาอ่านพิกัดกันนะคะ ที่นี่เลย
https://yummymummytarn.com/2017/01/17/japan-ep38-steakland/
มีความดีงาม ยิ่งทานชุดกลางวัน จะประหยัดกว่ามื้อเย็นมากค่ะ
หลังทานอาหารจบ ไปเดินย่อยต่อกันที่ Kitano “Ijinkan” Foreign Residence Area
เป็นบ้านโบราณ ที่ชาวต่างชาติ คือ พวกฝรั่ง เคยมาอาศัยอยู่ ช่วงที่โกเบเป็นเมืองท่า เมืองการค้าสำคัญในสมัยก่อน
วิธีไป ตามพิกัดนี้เลย https://goo.gl/maps/7gmAaeQsvzE2
เดินประมาณ 15 นาที จากสถานี Kobe-Sannomiya
ที่ Ijinkan นอกจากจะมีบ้านพักของชาวต่างๆชาติหลายหลังให้ชมแล้ว
ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้ชม และ อีกหลากหลายกิจกรรมให้สนุก เช่น การถ่ายรูปสามมิติ
และ การไปสัมผัสกับห้องของ Sherlock Holmes’s
งานนี้ไม่ฟรีค่ะ มีเสียค่าเข้า โดยสามารถเลือกได้ว่าจะดูบ้านทุกหลัง (8 หลัง) หรือ บางหลัง
ข้อมูลเพิ่มเติม และ ราคา ดูได้ที่ http://kobe-ijinkan.net
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:30 ถึง 17:00 น. สำหรับช่วงฤดูหนาว
และ เวลา 9:30 ถึง 18:00 น. สำหรับฤดูอื่นๆ

(cr : kobe-ijinkan.net)
ชมความสวยงามกันย้อนยุคกันแล้ว เราไปต่อกันที่ Kobe Harborland
ใช้สาย Hanshin ลงสถานี Kosoku-Kobe Station
จริงๆถ้ามาจากรถไฟสายอื่นๆ สามารถเลือกขึ้นได้ที่ สถานี Harborland ได้เลย
แต่เนื่องจากเราใช้ hanshin pass สถานีใกล้สุดที่สามารถถึง Harborland คือ Kosoku-Kobe Station
ลงแล้ว เดินกันไปอีกหน่อย
เมื่อไปถึง จะเจอห้างใหญ่รอคอยเราอยู่ที่ Harborland
แต่ก่อนไปเดินเล่น ขอแวะถ่ายรูปที่ระลึกกันซะหน่อย
มุมนี้ตอนกลางคืนจะเปิดไฟส่วนมากเลยทีเดียวค่ะ ผู้คนนิยมมาทานอาหาร พร้อมชมวิวกันบริเวณนี้
ฝั่งตรงข้ามเป็น Kobe Port Tower ซึ่งถือเป็น Landmark ของเมืองโกเบ
ด้านบนของ Kobe Port Tower มีจุดชมวิวของอ่าวโกเบด้วย เป็น Observation Deck แต่เราไม่ได้ขึ้นไป
เลยขอนำรูปด้านบน จากเวปของเค้ามาให้ชมกันนะคะ

(cr.kobe-port-tower.com)
ใครสนใจไป Kobe Port Tower
สามารถเดินไปได้ ประมาณ 15-20 นาที จากสถานีดังต่อไปนี้
- Motomachi Station – ใช้ JR/Hanshin lines
- Hanakuma Station – ใช้ Hankyu lines
- Kenchōmae Station – ใช้ Kobe Municipal Subway Seishin-Yamate Line
- Minatomotomachi Station (ถ้าจากที่นี่ เดินแค่ 5 นาทีค่ะ) – ใช้ Kobe Municipal Subway Kaigan Line
และ บริเวณใกล้ๆกัน ก็มี Kobe Maritime Museum
ถ้าใครมีเวลา ลองไปสำรวจกันดูนะคะ น่าสนใจเลยทีเดียว เรื่องราวเกี่ยวกับการเดินเรือ ทั้งอดีต จนถึงปัจจุบัน
ข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้ที่ http://www.kobe-maritime-museum.com/language/english.html
*ปิดทุกวันจันทร์
พิกัดเอาไว้เดินตาม กดดูได้เลยที่นี่ https://goo.gl/maps/TksGtA2AcFG2 จะได้ไม่หลง

(cr:.kobe-maritime-museum.com)
เวลาไปเที่ยว อย่าลืมพกสมุดบันทึกการเดินทาง My Travel Diary ไปด้วยนะคะ
เอาไว้จดบันทึก สิ่งต่างๆที่เจอ รวมถึงมีพื้นทีว่างให้เราปั้มพวกแสตมป์ที่ระลึกจากสถานที่ต่างๆด้วย
ใครสนใจ ลองไปอ่านรายละเอียดได้ที่ https://yummymummytarn.com/online-shop/
ตอนนี้ออกมาเป็นเวอร์ชั่น 2 แล้ว หน้าปกเป็น DIY สามารถระบายสีได้เองด้วยนะคะ 🙂
หลังจากแวะพักถ่ายรูป จดบันทึกระหว่างทางกันแล้ว เราก็มาตะลุยดูกันดีกว่า
ว่าใน Harborland มีอะไรน่าเดิน น่าเที่ยวบ้าง
ตามแผนที่ด้านล่าง ถ้าเริ่มต้นจาก JR Kobe Station หรือ Harborland
จะเดินอีกเพียงเล็กน้อยก็จะถึงห้างใหญ่สำหรับเดินเล่น กินข้าว
ข้อมูลเพิ่มเติม และ คำอธิบายว่า หมายเลขต่างๆในแผนที่ มีอะไรบ้าง
ตามมาอ่านได้ที่ http://www.harborland.co.jp/en/guide
สำหรับเรา เราไม่ได้ไปตามทุกจุด เราเลือกแค่ที่เราอยากค่ะ
สิ่งที่เราต้องการ คือ ของกิน ของเล่น ของช้อป
เราเลยมาแวะที่นี่เป็นที่สุดท้าย ก่อนกลับเข้าโอซาก้า
นั่นคือ ที่ Umie ที่นี่เหมือนศูนย์รวมความบันเทิงของโกเบเลยค่ะ
จะกินอะไรก็มี จะช้อปอะไรก็มี ของเยอะ และ คนก็เยอะเช่นกัน
มีแบ่งเป็นฝั่ง North – South และ Mosaic
เริ่มต้นความเพลินจากฝั่ง Mosaic ฝั่งนี้จะวิวสวย
มีทางเดินให้ชมวิวเมืองโกเบด้วย
การชมวิวอ่านโกเบ ด้วยชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ก็เป็นอีกหนึ่งความสนุก
หากใครเวลาเหลือๆ มานั่งชิลๆดูได้เลย
ฝั่งนี้จะมี Anpanman Children’s Museum & Mall ด้วยนะคะ
แฟนๆ Anpanman กรี๊ดสลบแน่ๆ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 ถึง 18.00 น.
พิกัด google https://goo.gl/maps/GJEwL5bfhZt
ข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้ที่ http://www.kobe-anpanman.jp
ในโซนเดี๋ยวกัน เดินมาอีกนิดจาก Anpanman Museum เราจะเจอร้านค้าช้อปปิ้ง และ ร้านขนม ของกินจุกจิกมากมาย
เริ่มจาก ร้านขายของเล่น Kiddyland สาขานี้ไม่ใหญ่แบบในโตเกียว แค่ก็โอเคนะคะ มีของจุกจิกบ้าง
ถ้าใครอยากหาร้านขายของสำหรับเด็กที่ใหญ่กว่านี้ แนะนำให้ไป Toy R Us ค่ะ ซึ่งมีด้วยที่นี่ แต่อยู่ฝั่ง North Mall
ก็จะมีทั้งของเล่น ของใช้ สำหรับเด็กแบบจัดเต็ม
ร้านนี้ Ultraman World … เชิญค่ะ คุณผู้ชาย
Sanrio ก็มี…
Snoopy ก็ติดกัน
ร้านนี้ มีใครชอบบ้างเอ่ย? น่ารักกกกกกก Donguri Garden
ส่วนร้านนี้ เค้ากำลังฮิตกันนะคะ ชื่อ Asoko
ขายของจุกจิก มีทุกอย่าง คล้ายๆร้าน 100 เยน แต่ราคาไม่ใช่ 100 เยน
คือ เค้าจะมีหลายราคา ของไม่แพงค่ะ ต่ำกว่า 100 เยนก็มี 100 เยนก็มี 300 เยนก็มี
แต่ของจะเก๋ๆ จะซื้อเป็นของฝากก็ไม่เลวนะคะ เพราะ สินค้าหลากหลายมากๆ
ของจะดูดีหน่อยอ่ะค่ะ มีดีไซน์ไรเงี้ยะ ก็จะรู้สึกแตกต่างกับร้าน 100 เยนที่เราคุ้นตา
ร้านนี้อยู่ข้างๆ KiddyLand
โซน Mosaic มีของกินที่ละลานตามาก
ควรทำท้องว่างๆแล้วมาลุยกันไปทุกร้าน
Frantz ร้านนี้ ซื้อกลับบ้าน ^^
ร้านนี้ต้องทานเลย สดๆ… มาญี่ปุ่นทีไร ต้องหา Calbee+ ทุกวัน
Calbee+ จะทำมันฝรั่งกันสดๆตามออเดอร์ นอกจากรสธรรมดาแล้ว
ในแต่ละภูมิภาคจะมีรสพิเศษด้วยนะคะ
ตาลเคยเขียนรีวิวเกี่ยวกับร้านนี้ด้วย ลองดูกันได้ที่
https://yummymummytarn.com/2016/11/25/japan-ep35/
ร้านนี้มีคิวเสมอ โปรดใจร่มๆ เดี๋ยวความอร่อยจะมา
วันนี้เราสั่ง 3 อย่างค่ะ
รอทำแบบสดๆร้อนๆ
อากาศตอนที่ทานประมาณ 1 องศา
มันฝรั่งร้อนๆเนี้ยะ… ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้เยอะเลยนะ ^^
เมื่อได้มาครอบครอง เราจะไม่ปล่อยให้ไปไหนอีก
ถ้ายังไหว… มาเหอะ มาต่อกันที่ร้านนี้ กลิ่นหอมออกมาแต่ไกลเลยจะบอกให้
ยิ่งอากาศเย็นๆ ได้ไอติมหน่อย มันจะเป็นความรู้สึกที่แบบ ไม่หนาวขึ้นนะ แต่สบายใจขึ้น
ไม่รู้เป็นคนเดียวรึเปล่า เวลาอากาศหนาว ทานไอติมแล้วอร่อยนะ
ร้านนี้ก็กดเอง softcream แบบหอมๆ
เมื่อข้ามกลับไป North Mall อย่าพลาดที่จะลองเครื่องดื่มจาก Moomin Stand
คิวยาว จงอดทน
แต่ที่ยาวกว่า คือ ร้านข้างๆ Dipper Dan Crepe!!
สู้มั้ย? … เพื่อความอร่อย… ยอมยยยยสิคะ……….
เมื่อข้ามมาเดินฝั่ง North จะเป็นห้างใหญ่ มีร้าน UniQlo , GU , Toys R Us และ อื่นๆ รวมถึง Din Don อีกสถานที่ สำหรับครอบครัว ที่เด็กๆน่าจะชอบใจ แต่เราไม่มีเวลา (มัวแต่รอคิวกิน) เลยไม่ได้แวะไปคราวนี้ ใครเวลาเยอะ แพลนดีๆ แล้วลองไปกันได้นะคะ
ได้เวลากลับโอซาก้า รถไฟเป็นลาย Snoopy ด้วยนะคะ
ก็น่ารักดี ใครชอบคงกรี๊ดแน่
จบเรียบร้อย กับ ทริป 1 วันในโกเบ… จริงๆ ยังมีอีกหลายจุดที่น่าสนใจ
แต่เรามาแบบสบายๆ ไม่อยากเหนื่อย เราไม่วิ่งตามเก็บทุกจุดท่องเที่ยว
ขอเดินเล่นแบบเพลินๆง่ายๆดีกว่า
============
–แนะนำเพิ่มเติมในการมาเที่ยวโกเบด้วยตัวเอง–
ใครที่กะมาค้างคืน หรือ แพลนทริปดีๆ โดยเริ่มเที่ยวแต่เช้าตรู่ หรือ ต้องการใช้ Pass ให้คุ้มค่า
เราก็มีสถานที่ ที่อยากแนะนำเพิ่มเติมอีกนะ
- ย่าน ChinaTown – หรือ ที่เรียกว่า Nankinmachi รถไฟ Hanshin ลงสถานี Motomachi Sta. เป็นย่านจีนแห่งเดียวในภูมิภาคคันไซ มีมาตั้งแต่โกเบเริ่มเปิดเป็นเมืองท่า นอกจากจะมีร้านอาหารจีนเยอะแล้ว ยังทั้งมีร้านขายของใช้ ขายอาหาร ขายพวกวัตถุดิบ นำเข้าจากประเทศต่างๆมากมายอีกด้วย เป็นชุมชนจีนขนาดใหญ่เลยทีเดียว
- เที่ยวปราสาท Himeji (อันนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหน่อย ในการนั่งรถไฟช่วงที่จะเชื่อมไปถึง สถานี Himeji) หนึ่งใน Uneso World Heritage มีความสวยงามมาก ถ้ามีเวลาควรไปชมนะคะ
- ชมวิวบนยอดเขา Rokkosan (เสียเงินเพิ่มเติมเช่นกัน เพราะ จะมีเส้นทางนั่งกระเช้า เพิ่มเติม) ลงสถานี Migake แล้วจะมีตั๋วเหมาพิเศษ เพื่อขึ้นลงยอดเขา Rokko อีกที ด้านบนมีร้านอาหาร มีวิวสวยๆ จุดถ่ายรูป พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี และ กิจกรรมต่างๆมากมายให้ได้สนุกกัน โดยเฉพาะในฤดูหนาว มีลานสกีให้เล่นด้วย ซึ่งที่นี่ จะถูกเรียกว่า Rokko Snow Park
- สำหรับ Rokko Snow Park จะเป็นลานสกีที่เหมาะสำหรับ beginner ถ้าคุณเป็นโปรสกี ที่นี่ไม่เหมาะนะคะ คุณภาพหิมะก็ไม่ได้ อย่าคาดหวัง… แนะนำสำหรับใครที่ต้องการมาแค่สัมผัสหิมะ ถ่ายรูป เล่นไม้เลื่อน หรือ เล่นสกีนิดๆหน่อยๆ เท่านั้น สำหรับบ้านที่มีเด็กๆ ที่นี่เหมาะมาก เพราะมีกิจกรรมให้สนุก และ เดินทางไม่ลำบาก Rokko Snow Park จะเปืดแค่ช่วงเดือน ธันวาคม ถึง ต้นเดือนเมษายน เท่านั้น มีขายตั๋วค่าเล่น ค่าเข้า เป็นแพคเกจด้วย เป็นลานสกีที่ใกล้โอโซก้าที่สุด ไปมาก็สะดวก สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ แบบสบายๆ

(cr.rokkosan.com)
- เดินเล่นแบบ local ที่สถานี Amagasagi – เป็นถนนช้อปปิ้ง จะเรียกว่าตลาดละลายทรัพย์ก็ได้ มีหลายบล๊อคเลย ประกอบไปด้วยร้านค้าเล็กๆต่างๆ มีทั้งสินค้าพื้นเมือง และ ของจุกจิก
- และสำหรับใครที่หาหุ่นตัวนี้ เรียนเชิญสถานี Nishidai Sta. ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.kobe-tetsujin.com/ แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะจ๊ะ อิอิ
(cr. kobe-tetsujin.com/)
ตอนหน้า กับ ‘ญี่ปุ่น..ไปแล้วไปอีก’.. ตาลกะแพมยังคงอยู่ที่คันไซ แต่จะกลับไปเจาะโอซาก้ากันอีกรอบ…
โปรดติดตาม….
ตาล กะ แพม #YummyMummyTarn
==============================
อย่าลืมติดตามอัพเดท เรื่องราวท่องเที่ยว กับ ตาลและแพม ได้ที่ Yummy Mummy Tarn กินเล่นเที่ยวกับลูก >>http://www.facebook.com/YummyMummyTarn
>> Blog : www.YummyMummyTarn.com
>> YouTube : YummyMummyTarn
>> Line ID : @yummymummytarn
>> IG : yummymummytarn