ข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆ : เมื่อคุณต้องเข้าเฝือกขึ้นเครื่องบิน

วันนี้มาเล่าจากประสบการณ์ทริปยุโรปล่าสุดที่พาคุณนายแพมไปเที่ยวมาเดือนก่อนนะคะ

ตัวทริป เรื่องเที่ยวขอเก็บไว้ เล่าทีหลัง

คราวนี้จะมาเล่าถึง เกี่ยวกับ ‘การพาผู้ป่วย ที่มีการเข้าเฝือก ขึ้นเครื่องบิน!!’    

 

 

ที่มา : แพมเกิดอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาที่โรงเรียน ในวันก่อนเดินทาง จึงทำให้ต้องเข้าเฝือกที่แขนขวา

แขนไม่เป็นอะไร แต่นิ้วเป็น จึงต้องดามเฝือกไว้ กันการกระแทกซ้ำ หรือ การใช้มือผิดท่า โดยเฉพาะตอนนอน

คุณหมอแนะนำให้เข้าเฝือกไว้ เพราะ จะได้เป็นการบังคับ ให้ทำมือนิ่งๆ อย่าซนมาก ไม่งั้นอาการบาดเจ็บที่นิ้วมากขึ้น และจะยิ่งหายช้า

 

 

เรื่องเกิดก่อนเดินทาง ประมาณ 4 วัน….  คุณหมอแนะนำให้เข้าเฝือก แต่เป็นเฝือกถอดได้ สามารถถอดตอนอาบน้ำได้

แต่เวลาปกติ ต้องใส่ โดยเฉพาะตอนนอน เพราะ จะไม่รู้ตัวเอง กลัวเอามือไปทับ หรือ กระแทกได้

 

 

 

 

ตอนแรก ก็แค่แบบเซร็ง ต้องพกเด็กหญิงเฝือกไปเที่ยวแบบนี้เหรอ … จะไหวมั้ยเนี้ยะ

ห่วงก็ห่วง และ กลัวนางลำบากด้วย เพราะ เข้าเฝือกมือขวา

จะกิน จะเข้าห้องน้ำ จะเขียน  ก็ไม่ค่อยถนัด

ช่วงบ่าย ก่อนคืนที่จะไป เลยพาไปให้คุณหมอเช็คอีกรอบดีกว่า

จริงๆอยากให้คุณหมอ  confirm ว่ามันจำเป็นขนาดไหนที่ต้องเฝือกแบบนี้ตลอดเดือนเลยเหรอคะ?

หมอแนะนำว่า ควร แต่ถ้าบางโอกาส ยืดหยุ่นได้บ้าง โดยที่เค้าต้องไม่ซน

แต่ขอเน้นว่า ตอนนอนยังไงก็ต้องใส่เด็ดขาด กลางวันปล่อยบ้างได้ ไม่ว่ากัน

 

 

สิ่งที่ตาลอยากจะแนะนำ สำหรับผู้ป่วยทุกท่าน ที่เตรียมตัวจะขึ้นเครื่องบิน

ไม่ว่าจะมีอาการบาดเจ็บตรงไหน หรือ มีการเข้าเฝือกแบบเห็นกันจะจะแบบแพม รวมทั้งคนท้อง คือ

 

• อย่าลืมไปขอใบรับรองแพทย์ เป็น*ภาษาอังกฤษ* ไว้ด้วย เพื่อเขียนรับรองอาการของเรา ว่าเราเจ็บป่วย แต่สามารถเดินทางขึ้นเครื่องบินได้ ไม่มีปัญหา
• พวกยาที่ต้องทาน หรือ ยาต่างๆ ที่ต้องพกติดตัว ควรขอให้ทางโรงพยาบาล แปะสติกเกอร์เป็นชื่อเรา โดยใช้ภาษาอังกฤษ พร้อมเบอร์ผู้ป่วย ที่ตรงกับใบรับรองแพทย์
• ควรถ่ายสำเนาใบรับรองแพทย์สำรองด้วย

 

 

ทำไมต้องมีใบรับรองแพทย์?

 

ณ สุวรรณภูมิ ขาออกจากประเทศไทย – กรณีแบบแพม คือ แขนเข้าเฝือก – ดีที่ตาลเตรียมใบรับรองแพทย์ไป เจ้าหน้าที่เค้าขอดูด้วย พร้อมกับบอกขอเวลาสักครู่ ต้องติดต่อ manager มาก่อน เพราะ แต่ละเคสไม่เหมือนกัน เค้าก็จะสอบถามอาการของแพม เราก็บอกไปตามความจริง ว่าเดินทางได้ ไม่มีปัญหา เฝือกถอดได้ค่ะ ปัญหาตรงนิ้ว ไม่ใช่ทั้งแขน….  ตอนแรกที่เค้าถามว่าน้องเป็นอะไรมาคะ? ตาลก็หลงดีใจ.. มโนนึกว่าเค้าอาจสงสาร.. เห็นแขนเดี้ยง อาจจะ upgrade ให้นั่ง First Class แม่ลูกไรเงี้ยะ (เพราะ แม่ต้องคอยดูแลลูกใกล้ชิด 5555) … ปรากฎว่า… ดีที่มีใบรับรองแพทย์ไป…  ไม่งั้นอาจจะไม่ได้ไปบินเลยด้วยซ้ำ เพราะ เค้าคำนึงถึงความปลอดภัย และ ความรับผิดชอบต่อผู้โดยสารที่เค้าต้องมี ….  โชคดีไป.. เราแวะไปขอใบรับรองแพทย์มาตอนบ่าย manager มาพิจารณาแล้ว เค้าเลยเช็คอินให้ได้ตามปกติ….

 

เลยอยากพูดถึงอีกกรณี คือ กรณีคนท้อง – ถ้าเกิดคลอดลูกขึ้นมา เรื่องใหญ่นะคะ ถ้าคนท้องไม่มีใบรับรองแพทย์มายืนยันว่าครรภ์ปกติ สามารถขึ้นเครื่องได้ สายการบินบางเจ้าไม่อนุญาตให้ขึ้นนะ

 

ทุกสายการบิน เค้ามีกฎระเบียบ เพื่อความปลอดภัยทั้งของผู้โดยสาร และ สายการบินเอง…  ทางที่ดีหากไม่แน่ใจ ว่าสภาพร่างกายเราเดินทางไหวมั้ย ควรโทรสอบถามสายการบินที่เราจะใช้บริการล่วงหน้าเลย ว่าจำเป็นต้องออกใบรับรองแพทย์มั้ย? หรือ ถ้าเราป่วย แต่ต้องการความช่วยเหลืออื่นๆ เช่นรถเข็น เราก็ควรแจ้งล่วงหน้ากับทางสายการบิน โดยแจ้งก่อนวันเดินทางนะคะ ขอให้เค้ามีเวลาได้เตรียมตัวกันบ้าง อย่ามาโวยวายแจ้งขอเอาตอนเช็คอินเลย (ถ้าไม่ได้ฉุกเฉินจริงๆ)   …ผู้โดยสารที่รู้ตัวเองอยู่แล้ว ว่าอยากได้รถเข็น หรือ ความช่วยเหลือพิเศษเพิ่มเติม ควรโทรแจ้งล่วงหน้าค่ะ จะได้ไม่มีปัญหาให้หงุดหงิดใจ หากเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกไม่พร้อม…  รวมทั้งผู้สูงอายุ ที่อาจต้องเดินทางเอง แต่ไม่สามารถแบกกระเป๋าหนักได้ อันนี้ก็สามารถแจ้งพนักงานได้นะคะ จะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานให้ แล้วจะช่วยยกให้ที่สายพาน เวลาถึงจุดหมาย  (แจ้งล่วงหน้าค่ะ แจ้งล่วงหน้า)

 

สำหรับแพม – เพื่อลดการมีปัญหาการตอบคำถามมากมาย กับเครื่องบินภายในประเทศของยุโรป เราจึงถอดเฝือกเธอเก็บไว้ชั่วคราวค่ะ ระหว่างบินค่ะ แต่ถ้าผู้ป่วยท่านอื่นหมอไม่อนุญาตให้ถอดเลย อย่าทำนะคะ ก็แค่เตรียมพกใบรับรองแพทย์เป็นภาษาอังกฤษติดตัวไว้เวลาเดินทางด้วยละกัน

 

หวังว่าเรื่องนี้ จะพอมีประโยชน์ สำหรับคนที่จะเข้าเฝือก แล้วไปขึ้นเครื่องบิน ไม่มากก็น้อยนะคะ …