รีวิว EVA Air – Royal Laurel Class : กรุงเทพ – ลอนดอน
ปีนี้ สายการบินแห่งชาติของไต้หวัน คือ EVA AIR
ได้รับรางวัล World’s Best Airlines for 2018 โดยติดอันดับ 5
และ ติดอันดับ 10 ของ World’s Best Business Class Airlines 2018
เรามีโอกาสใช้บริการ ไฟลท์ล่าสุด
ระหว่าง กรุงเทพ-ลอนดอน พอดี
เลยทำรีวิวมาฝากกันค่ะ
เราออกจากสุวรรณภูมิ ประมาณบ่ายโมง
ทริปนี้ เราใช้บริการสายการบิน EVA Air บินตรงสู่ลอนดอนเลย
เมื่อก่อน เวลาไป london ก็มักใช้สายการบินนี้
เพราะ บริการดี บินตรง เครื่องใหม่
แต่หลายปีแล้ว ที่ไม่เคยนั่ง EVA Air
ทริปนี้ หลังจากเลือกไปมาหลายสายการบิน
เรามาลงตัวที่ Business Class หรือ ที่เรียกว่า Royal Laurel Class
โดยใช้เครื่องบินแบบ Boeing 777-300ER ของสายการบิน EVA Air
ขาไปจาก BKK – London ใช้เวลาบินประมาณ 11.30 ชั่วโมง
ที่นั่งเครื่อง 777 ในชั้น Business Class จะเป็นแบบ 1-2-1
มาเป็นคู่ หากเลือกช่วงกลาง ก็คุยกันได้อยู่
แต่ไม่มีพื้นที่เชื่อมถึงกันนะคะ
มีแนวกั้น เป็นส่วนตัวไปเลย
เดินหากันไม่ได้ แต่จับมือกันได้
แบ่งของกินกันได้
เม้าท์กันได้ ดูแลกันได้
สำหรับผู้ที่มาเดี่ยว หรือ
นั่งติดหน้าต่าง จะยิ่งมีความเป็นส่วนมาก
ดูได้จากผู้โดยสารที่อยู่ด้านข้างขวาของรูปเลย
จะเป็นโซนส่วนตัว
ชมวิวเพลินๆเดี่ยวๆ
เหมาะมาก สำหรับคนเดินทางคนเดียว
เราไปกันทั้งหมด 6 คนค่ะ
เลยได้ลองกันทุกมุม
รีโมททีวี และ แผงควบคุมเก้าอี้
พร้อมช่องเสียบอุปกรณ์ต่างๆ
แน่นอนว่ามีช่อง usb สำหรับชาร์ทมือถือ
จอทีวีใหญ่สะใจ
(แต่ต้องพับระหว่าง take-off และ landing)
และ มีส่วนให้วางขา ยืดขากันอย่างสบายๆ
สำรวจพบว่า มีหูฟังแบบ Noise Cancellation
สำหรับ Royal Laurel Class โดยเฉพาะ
อันนี้ให้ใช้บนเครื่อง ไม่ได้แจกกลับบ้านนะคะ
ระหว่างสำรวจ
ก็ได้รับเครื่องดื่มให้ชื่นใจ
ก่อนพร้อมบิน
เราได้ของที่ระลึก
มาแจก สำหรับเด็กของเราด้วย
ก็มีพวกสมุดระยายสี ถุงผ้าจาก Sanrio
น่ารักดีค่ะ
ส่วน amenity kit แจกเป็นของ Rimowa
และน้ำดื่ม จะเป็นของ Fiji จ้า
ด้านในก็มีผ้าปิดตาซาติน หวี แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
แปรงหวีผม ที่อุดหู ถุงเท้า ครีมต่างๆ และ ของใช้ที่จำเป็น
แล้วก็มีรองเท้าให้ไว้ใส่บนเครื่อง
พร้อมชุดนอนแจกด้วยค่ะ
เราไม่ได้เปลี่ยนใช้บนเครื่อง เพราะ บินกลางวัน
เลยเอากลับไปใช้ คืนแรกที่ลอนดอนพอดีเลย
เป็นชุด เสื้อยืดแขนยาว และ กางเกงขายาว
มีขนาด S M L ให้เลือก
collection ที่ได้ช่วงนี้ จะเป็นของ APUJAN ดีไซน์เนอร์ไต้หวัน ที่มีผลงานโด่งดังในอังกฤษ
สวยค่ะ ผ้านุ่ม ใส่สบาย
ถุงใส่รองเท้า
อันนี้ขอกระโดดข้ามมา amenity kit ในส่วนขากลับหน่อยนะคะ
เพราะว่า ไม่ได้แจก Rimowa แล้ว
จาก ลอนดอน – กรุงเทพ
เครื่องแบบเดิม ที่นั่งเดิม
แต่ amenity kit เปลี่ยนไป
จะได้เป็นของ Georg Jensen ค่ะ
ก็ดีงามเช่นกัน
ในส่วนของกระเป๋า สามารถแยกออกมาเป็น 2 ใบ ได้ด้วย
ของใช้ด้านใน ก็มีพวกอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ
เช่นเดียวกับ ที่มาใน Rimowa
แต่.. ครีมทาหน้า ทามือ พร้อม lip palm
จะใช้ของยี่ห้อ 3LAB ด้วยค่า
เอาหล่ะ.. กลับมา on flight ขาไปต่อนะคะ
เครื่องดื่ม ระหว่างรอ take-off เสริฟพร้อมเมนู
เราบินกลางวันค่ะ
ส่วนตัวแล้ว.. ถ้าไฟลท์ยาว จะชอบบินกลางคืนนะ
เพราะ เน้นหลับ ไม่เน้นกิน
แต่ ในส่วนคุณตา คุณยาย
จะบอกว่า ชอบบินกลางวัน
เพราะ จะได้ได้ชิมอาหารบ้าง
ไม่งั้นไปกลางคืน นอนอย่างเดียวเลย
อดชิม!!
ส่วนคุณลูกของฉันหน่ะเหรอ…
โหวต กลางวัน เช่นกัน
เพราะ จะได้ดูทีวี ดูหนังไปยาวๆ
อ่ะ… เรามาดูเมนูบนเครื่องกันค่ะ
สำหรับ Royal Laurel Class
ก็มีเมนูมาให้เลือกตามนี้
มื้อแรก จะบริการ หลังเครื่องขึ้นประมาณ สองชั่วโมง
และ มื้อที่สอง คือ ก่อนเครื่องลงประมาณสองชั่วโมง
แต่ระหว่างบิน หากใครหิว ก็มีของว่างพร้อมบริการตลอดเวลา
จานแรก Prelude แบบเบาๆ แต่อร่อยมากค่ะ
ตามด้วย ขนมปัง
salmon และ ซุป
คือ แค่นี้ เริ่มอิ่มมาก
อาหารหลักยังไม่ถึงเลยนะ
คนนี้ก็ enjoy eating ไปค่ะ
มีความพิเศษ คือ
นางสั่งเมนู Steak มาล่วงหน้า
คือ แทนที่สั่งอาหารเด็ก
นางระบุเป็นเมนู Steak เลยค่ะ
ซึ่ง EVA Air ขึ้นชื่อว่าเมนูนี้อร่อย
ก็กินไป ดูหนังไป
ไม่ต้องมีใครดูแลแล้ว
หนูโตแล้วค่า
ไม่นาน เวลาเดินทาง
จะต้องจ่ายราคาเต็มแล้วด้วย!!
(ถอนหายใจแป๊บบบบ)
และ อีกเช่นกัน
อีกเมนู ที่ในบางเส้นทาง
เราก็สามารถสั่งพิเศษได้ คือ
กุ้ง Lobster ค่ะ
ส่วนจานนี้ เป็นเมนูปลา
ต้องขออภัย ที่รูปอาจไม่มาแบบสวยงาม
คือ เอาจริงๆนะคะ เกือบลืมถ่าย
เมื่อทานเสร็จ ก็ใช้ in-flight Entertainment กันให้คุ้ม
ก็ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์กันไปเรื่อยๆ
จอทีวีใหญ่สะใจ
แต่โปรแกรมหนัง ไม่เท่าไรอ่ะ
คาดหวังว่า จะมีหนังใหม่ๆ มากกว่านี้
เมื่อบินไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ คือ
กว่าจะครบ 11.30 ชั่วโมง
เราก็คงต้องพัก ต้องนอนบ้าง
จ่ายเงินมาแล้ว นอนกันยาวๆให้คุ้มค่ะ
ก่อนนอน คุณแอร์แสนสุภาพ
ก็จะมาปูผ้าให้ด้วยนะคะ
ลักษณะที่นั่ง จะเป็น flatbed
ปรับนอนได้ 180 องศา
สบายแสนสบาย
ขนาดความกว้าง และ ความยาวของเก้าอี้
ในชั้น Business Class ของ Eva Air ก็ดีงาม
มีความเป็นส่วนตัว เวลานอน
หมอนดี ส่วนผ้าห่มอุ่นมาก
จนอุ่นเกิน ใส่แขนสั้นนอนถึงพอดีๆ
เมื่อเวลาผ่านไปสมควร
ท่านผู้โดยสารคะ .. พักผ่อนเถอะค่ะ
ความสว่างภายใน จะถูกปรับให้มืดลง เป็นโทนสีต่างๆ
สวยดีนะ
มืดๆแล้ว ใครยังไม่นอน
ก็มีขนมมาให้เลือก
…และ สุดท้าย…
มานับดาวกันค่ะ
ท่านผู้โดยสาร ควรพักผ่อนกันได้แล้ว
เราปิดไฟหมดแล้ว ดาวก็ขึ้นแล้วนะ
แต่.. ถ้าผู้โดยสารเกิดหิวขึ้นมา
มื้อต่อไปก็ยังไม่เสริฟ
ท่านก็สามารถขออาหารว่างได้นะคะ
จัดไปคนละชาม
กับของว่างที่อร่อยที่สุด
ของว่างชามนี้ มักมีบริการเฉพาะสายการบินของเอเชีย
ขอเกือบทุกรอบที่บินยาว แล้วหิว
เรามักขอเมนูนี้กับคุณแอร์
บางคนชอบบอกว่า ทำไมไม่เอาอย่างอื่น
ก็มันอร่อยอ่ะ ชอบส่วนตัว
ไม่ได้อยู่ที่ ราคาของซะหน่อย
แต่ของ Eva Air แอบมาใส่ผักสดมาด้วยนะ
ส่วนอย่างอื่น ที่สามารถสั่งมาทานได้
เป็นมื้อว่าง (แต่กินกันแบบมืดๆ) คือ
แซนวิซชีส หน้าตาเยี่ยงนี้
… เป็นคุณ คุณว่าระหว่าง มาม่า กับ แซนวิซ ก้อนนี้ …
ตอนหิวๆอ่ะ… คุณจะเลือกอะไร??
จากมื้อว่าง นอกเวลา
เรามาดู มื้อที่สอง
ก่อนเครื่องจะลงสู่ Heathrow
มื้อนี้ ก็มีให้เลือก แบบเมนูอาหารเช้า ฝรั่ง กับ เอเชีย
และ แต่ไหนแต่ไรแล้ว เมนูเช้า ของ Eva Air ที่โด่งดัง ก็คือ
ข้าวต้ม นะจ๊ะ
เครื่องเคียงบอกเลย เยอะมาก
มีคลิปสั้นๆมาฝากค่ะ
EVA Air – Royal Laurel Class
EVA Air – Royal Laurel Class : Bangkok-London
เครื่องดี ที่นั่งดี บริการดี
เราบินช่วงกลางวัน เลยได้ทั้งดูหนัง กินเต็มที่ทุกมื้อ
และ จบที่การนอนเหยียด แบบยาวๆ
เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายมาก
และ ไม่แปลกใจเลย ที่ EVA Air ได้รับทั้งรางวัล
World’s Best Airlines for 2018 โดยติดอันดับ 5
และ ติดอันดับ 10 ของ World’s Best Business Class Airlines 2018
ขอบคุณที่ติดตามกัน 🙂
รีวิว โดย ตาลกะแพม
เพจ #YummyMummyTarn
++ รีวิว EVA Lounge ที่สุวรรณภุมิ
My Travel Diary สมุดบันทึกการเดินทางสำหรับเด็ก
หากใครสนใจ สั่งซื้อ…
สามารถดูข้อมูลได้ ที่ https://yummymummytarn.com/online-shop/
หรือ www.facebook.com/YummyMummyTarn
Shupatto Thailand กระเป๋าผ้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
www.Facebook.com/ShupattoThailand